- ประโยชน์ของเซ็กส์


ประโยชน์ของเซ็กส์ที่คาดไม่ถึง

คุณรู้ไหมว่า "เซ็กส์" สามารถช่วยให้ น้ำหนักลด คอลเลสเตอรอลลด ทำให้อายุยืน พูดไปพูดมาอาจดูเกินจริงว่า เซ็กส์จะมีประโยชน์ที่คาดไม่ถึงจริง ๆ เหรอ แต่ก็ใช่ว่าประโยชน์ของเซ็กส์ที่คาดไม่ถึงจะหมดแต่เพียงเท่านี้มันยังมีอย่างอื่นอีก

ประโยชน์ของเซ็กส์ที่คาดไม่ถึง มาดูกัน

รักษาน้ำหนักตัว
ไขมันหนึ่งปอนด์มีน้ำหนัก 3500 แคลอรี่ และทุก 3500 แคลอรี่ ที่คุณเผาผลาญได้ (และไม่ได้แทนที่ด้วยการกิน) คุณจะลดไขมันได้หนึ่งปอนด์ การร่วมเพศเผาผลาญ 150 แคลอรี่ ต่อครึ่งชั่วโมง และเมื่อลองเทียบกับกิจวัตรอย่างอื่นในครึ่งชั่วโมง เช่นโยคะ 114 แคลอรี่ เต้นรำ 129 แคลอรี่ เดิน 153 แคลอรี่ ยกน้ำหนัก 153 แคลอรี่ วอลเลย์บอล 174 แคลอรี่ คุณจะเห็นได้ว่าเซ็กส์เป็นกิจกรรมที่ไม่น้อยหน้ากว่าการออกกำลังกายใด ๆ เลย เช่น ถ้าคุณมีเซ็กส์สัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง ก็จะเผาผลาญได้ 31,200 แคลอรี่ต่อปี หรือ 9 ปอนด์ ซึ่งเมื่อคำนวณว่าคนเรามักน้ำหนักเพิ่มโดยเฉลี่ยราว 5-10 ปอนด์ต่อปี จึงเป็นเรื่องที่ไม่เกินจริงไปนักที่จะบอกว่า เซ็กส์ช่วยรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ได้

เพิ่มการไหลเวียนโลหิต

เซ็กส์เพิ่มการไหลเวียนโลหิตมายังสมองและอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย การเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจแรง ๆ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการไหลเวียนที่ดี เลือดใหม่ ๆ ที่ถูกสูบฉีดเข้ามาทำให้เซลล์กล้ามเนื้อและอวัยวะได้รับออกซิเจนและฮอร์โมน และเมื่อเลือดที่ใช้แล้วไหลเวียนกลับไปคุณก็ได้ผลักดันเอาของเสียที่มักทำ ให้เกิดอาการอ่อนล้าและความเจ็บไข้ได้ป่วยออกไปด้วย
ลดคอเลสเตอรอล
นี่เป็นประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของเซ็กส์ในฐานะที่เป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง มันทำให้คอเลสเตอรอลลดลงและทำให้ไขมันดีเพิ่มขึ้นด้วย

ลดความเครียด

เซ็กส์ทำให้ผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีคนที่มีเซ็กส์บ่อย ๆ มีรายงานว่าพวกเขารับมือกับความเครียดได้ดีกว่าการผ่อนคลายอย่างมาก เพราะเกิดจากการออกัสซั่มในผู้หญิงและการหลั่งในผู้ชายอาจเป็นเพียงช่วงเวลา เดียวในชีวิตที่ทำให้ทุกคนปล่อยวางยอมจำนนและผ่อนคลายอย่างแท้จริง หลายคนชี้ว่าพวกเขานอนหลับลึกขึ้นหลังการเมกเลิฟ นอกจากนั้นคุณยังสามารถปล่อยวางความคิดและสิ่งรบกวนทั้งหลายได้ดี ซึ่งการหยุดคิดเช่นนี้ อาจช่วยคนจำนวนมากเอาชนะปัญหาการนอนไม่หลับได้

บรรเทาอาการเจ็บปวด
เซ็กส์ทำให้มีการหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) ซึ่งทำให้มีการหลั่งเอ็นดอร์ฟินตามมาด้วย สารเคมีธรรมชาติเหล่านี้ช่วยผ่อนคลายอาการเจ็บปวดบางอย่างได้ เช่น ปวดข้อหรือปวดหัว เซ็กส์จึงช่วยเยียวยาอาการปวดหัวได้ แทนที่จะเป็นข้ออ้างในการไม่มีเซ็กส์ การตื่นตัวและออกัสซั่มทำให้ระดับออกซิโทซินเพิ่มขึ้น โดยมันจะพุ่งสูงขึ้น 3-5 เท่า ก่อนการออกัสซั่มและที่จริงมันก็ด้วยออกซิโทซินนี่แหละที่กระตุ้นให้เกิด การออกัสซั่ม นอกจากนี้การเกร็งและผ่อนคลายกล้ามเนื้อช่องคลอดในระหว่างการมีเซ็กส์ยัง ช่วยในการผ่อนคลายอาการปวดท้องก่อนมีประจำเดือนได้ด้วย

อายุยืนกว่า อ่อนเยาว์กว่า

ในอังกฤษมีการศึกษาผู้ชาย 1,000 คน ที่ออกัสซั่มอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้งพบว่า พวกเขามีอัตราการตายน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียกับเพื่อนร่วมชาติที่ปรนเปรอตัวเองด้วยเรื่องอย่างว่าเพียงเดือนละ ครั้ง ปัจจัยที่สำคัญมาจากฮอร์โมน DHEA ซึ่งทำให้เกิดความตื่นตัวทางเพศและเพิ่มมากขึ้นตามความตื่นตัวทางเพศด้วย ดร.เทรีซ่า เครนชอร์ บอกว่า DHEA อาจเป็นสารเคมีที่ทรงอำนาจที่สุดในโลกส่วนตัวของคนเรามันช่วยสร้างความสมดุล ให้ระบบภูมิคุ้มกันทำให้ความจำดีขึ้น ส่งเสริมการสร้างกระดูกช่วยรักษาและซ่อมแซมเนื้อเยื่อทำให้ผิวสุขภาพดีและ ยืดหยุ่นรวมทั้งยังอาจมีผลต่อสุขภาพของหลอดเลือดหัวใจอีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก lisa ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

- วิธีลดต้นแขน


วิธีลดต้นแขน "แบบได้ผลและเรียวเล็ก"

วันนี้ชวนคุณผู้หญิงมาบอกลาต้นแขนใหญ่ด้วยวิธีลดต้นแขนแบบ ได้ผลแล้วคุณจะได้มีแขนที่เรียวขึ้นและเล็กขึ้นอีกด้วยค่ะ ด้วย วิธีลดต้นแขน ต่อไปนี้จะช่วยให้คุณมีแขนที่กระชับไม่หย่อนคล้อยและทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ขึ้นอีกด้วยค่ะ ถ้าคุณผู้หญิงได้ลองนำ วิธีลดต้นแขน ไปฝึกปฏิบัติตามกันดูนะค่ะ เพราะเป็น วิธีลดต้นแขน แบบง่าย ๆ ที่คุณก็สามารถทำเองได้ที่บ้านที่สำคัญใช้เวลาไม่มาก เชื่อว่า วิธีลดต้นแขน นี้คุณผู้หญิงน่าจะสนุกไปกับการลดต้นแขนที่ช่วยให้คุณบอกลาแขนล่ำใหญ่ได้ อย่างง่ายดายและเมื่อคุณมีแขนที่เรียวเล็กสมใจแล้วก็จะได้ใส่เสื้อโชว์แขน ได้อย่างมั่นใจกันเลยทีเดียวค่ะ


 วิธีลดต้นแขน

วิธีลดต้นแขน

- บริหารต้นแขนด้านใน นั่งตรงขอบเก้าอี้ถือเวทหรือขวดน้ำที่มีขนาดพอดีมือ แล้วโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อยใช้มือซ้ายยันเข่าเพื่อพยุงตัว ส่วนข้อศอกขวายึดไว้กับเข่าขวาด้านในยกเวทหรือขวดน้ำเข้าหาไหล่ทำสัก 20 ครั้ง สลับกันทั้งสองข้าง

- บริหารต้นแขนด้านนอก
ยืนแยกเท้าและงอเข่าเล็กน้อย มือถือลูกบอลยกขึ้นเหนือศีรษะ งอข้อศอกและส่งลูกบอลไปด้านหลังจนจรดต้นคอ กลับสู่ท่าเริ่มต้นทำซ้ำอย่างน้อย 30 ครั้ง

- บริหารไหล่ มือ ซ้ายและขวาถือขวดน้ำข้างละใบไว้ที่ระดับสะโพกค่อย ๆ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ แล้วเหวี่ยงไปข้างหลัง วนเป็นรูปวงกลมทำประมาณ 10 รอบ แล้วเปลี่ยนสลับข้าง

- บริหารไหล่และหลัง ยืนแยกเท้าและงอเข่าเล็กน้อยในมือทั้งสองถือพ็อคเก็ตบุคข้างละ 2-3 เล่ม พักไว้ตรงหน้าขาค่อย ๆ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นสูงถึงระดับไหล่ ชูแขนเหยียดตรงเกร็งกล้ามเนื้อพร้อมลดแขนลงช้า ๆ ทำซ้ำประมาณ 20 ครั้ง

- บริหารอกและแขน ตั้งเก้าอี้วางชิดผนังมือเกาะที่ขอบเก้าอี้ทรงตัวเหยียดแขนตรงยืนบนปลายเท้า จากนั้นงอศอกดึงตัวเข้าหาเก้าอี้ให้ใกล้ที่สุดแล้วยืดแขนออกทำซ้ำสัก 30 ครั้ง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก front ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

- วิธีลดหน้าท้อง

วิธีลดหน้าท้อง

 วิธีลดหน้าท้อง.....ด้วยอาหารอย่างได้ผล!!!

หลากหลายวิธีลดหน้าท้องที่หากว่าคุณยังไม่เคยใช้ได้ผลลอง มาเจอกับ วิธีลดหน้าท้อง ของเราดูซิค่ะ เป็นวิธีที่เราคิดว่าง่ายมากขึ้นอยู่กับอาหารที่คุณเลือกรับประทานเท่านั้น แต่บางคนอาจจะว่ายากก็ได้ค่ะเพราะการใช้ชีวิตประจำวันหรือการเลือกอาหารของ แต่ล่ะคนนั้นไม่เหมือนกัน แต่หากว่าคุณอยากจะ ลดหน้าท้อง โดยที่ไม่ต้องเสียเหงื่อก็ต้องใช้ วิธีลดหน้าท้อง ด้วยอาหารของเราเนี่ยแหละค่ะเป็นวิธีที่ดีที่สุดและไม่มีวิธีไหนจะดีเท่านี้ อีกแล้ว หากว่าคุณใช้วิธีลดหน้าท้องของเราแม้ว่าคุณจะไม่มีเวลาไปออกกำลังกายแต่คุณ ก็ยังสามารถที่จะทำให้หน้าท้องของคุณแบนราบได้อย่างง่ายดาย เพียงปรับการกินหรือการเลือกอาหารเท่านั้น เพียงแค่นี้คงไม่อยากอะเนอะหากคิดจสวยซะอย่าง

วิธีลดหน้าท้อง

แคลอรี่ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะทำให้หน้าท้องเพิ่มหรือลดแต่อาหารบางอย่างดู จะมีผลต่อไขมันกลางลำตัวของเรามากกว่า เมื่อไม่นานมานี้ผู้เชี่ยวชาญจากการศึกษาแบบต่อเนื่องของ Framingham Nutrition รายงานว่า ผู้หญิงที่กินน้อยลงไปเกือบ 400 แคลอรี่ต่อวัน แต่เลือกอาหารที่มีสารอาหารน้อยมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสองเท่าครึ่งในการมี หน้าท้องใหญ่ขึ้น เมื่อเทียบกับคนที่กินมากกว่าแต่กินอาหารที่ดีกว่า คุณจึงไม่จำเป็นต้องอดอาหารเพียงแต่ต้องรู้จักเลือกอาหารให้มากขึ้น เพื่อปราบหน้าท้องให้อยู่ในที่ในทาง นั่นก็คือ 4 อาหาร ต่อไปนี้

1. ผักและผลไม้

ผู้หญิงลดขนาดเอวได้ด้วยการแทนที่อาหารที่เป็นแป้งขัดขาวและน้ำตาลด้วย คาร์โบไฮเดรตจากผักและผลไม้โดยเฉพาะที่มีสีส้ม นี่เป็นการรีวิวจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน นอกเหนือจากเส้นใยอาหารที่ทำให้คุณรู้สึกอิ่มยาวนานกว่า นักวิจัยยังคาดว่า แอนตี้ออกซิแดนท์ อย่างเช่น วิตามินซีและเบต้าแคโรทีนคือสิ่งที่ช่วยกำจัดไขมันหน้าท้องออกไปได้

2. โปรตีน

การกินโปรตีนมากขึ้นทำให้คุณอิ่มและเพิ่มพลังงานซึ่งนำไปสู่การลด น้ำหนักโดยรวม และสำหรับคนที่อายุมากกว่า 40 จะช่วยลดไขมันหน้าท้องได้เป็นพิเศษ นี่เป็นผลการค้นพบของวิทยาลัยสกิดมอร์และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน แต่งานวิจัยชี้ว่าการกินโปรตีนในปริมาณสูง ๆ อาจทำให้ไตทำงานหนัก เพราะอาจทำให้เกิดการสูญเสียแคลเซียมได้ ควรตั้งเป้ารับแคลอรี 25% จากโปรตีน (ถ้าคุณกินวันละ 2,000 แคลอรี่ นั่นก็คือ 500 แคลอรี่ จากโปรตีน) และเลือกโปรตีนแบบไร้ไขมัน อย่างเช่น โยเกิร์ตไขมันต่ำ นมไร้ไขมัน ปลาและสัตว์ปีกไร้หนัง ถั่วเป็นแหล่งที่ดีอีกอย่างหนึ่งแต่อาจมีแคลอรี่ค่อนข้างสูง

3. เซเลเนียม

นี่เป็นแร่ธาตุที่ช่วยต่อสู้มะเร็งและเชื่อมโยงกับไขมันหน้าท้อง จากการสำรวจคนอเมริกันมากกว่า 8,000 คน คนที่มีระดับเซเลเนียมและแอนตี้ออกซิแดนท์อื่น ๆ ในเลือดน้อยกว่าจะมีรอบเอวที่ใหญ่กว่า เซเลเนียมพบในอาหารหลายชนิดแต่มันอาจยากที่จะรู้ว่าคุณได้รับปริมาณครบตาม ที่แนะนำหรือเปล่า (55 ไมโครกรัม) เพื่อให้ได้ปริมาณตามต้องการลองกินวิตามินเสริมหรือกินอาหารให้หลากหลาย

4. ไขมันที่ดี

การวิจัยชิ้นหนึ่งของสเปนชี้ให้เห็นว่า มันง่ายกว่าที่จะรักษาความผอมเพรียวด้วยการกินไขมันแบบไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (เช่น น้ำมันมะกอก) และโอเมก้า-3 (ส่วนใหญ่พบในปลา แต่ก็มีในเมล็ดต้นแฟลกซ์ น้ำมันวอลนัตและเต้าหู้) ในขณะที่ไขมันเมก้า-6 (มีมากในซีเรียลน้ำมันข้าวโพดและไข่) เป็นเหตุให้ไขมันหน้าท้องเพิ่มพูน แต่ไขมันที่ควรกำจัดโดยสิ้นเชิงก็คือ ไขมันทรานส์ที่ไม่มีคุณค่าทางอาหาร

ในการศึกษาของมหาวิทยาลัยเวกฟอเรสต์ลิงที่กินอาหารแบบที่คนอเมริกาทั่วไปกิน เป็นเวลา 6 ปี มีน้ำหนักมากขึ้นเทียบเท่ากับน้ำหนักมนุษย์ 10 ปอนด์ ถ้าไขมันที่พวกมันกินคือ ไขมันทรานส์อย่างเดียวเทียบกับพวกที่กินไขมันที่เพิ่มขึ้น 30% นั้นจะเพิ่มขึ้นในส่วนของหน้าท้องด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

- วิธีลดความอ้วนภายใน 7 สัปดาห์

วิธีลดความอ้วนภายใน 7 สัปดาห์ "หุ่นสวย"

วิธีลดความอ้วนภายใน 7 สัปดาห์

วิธีลดความอ้วนภายใน 7 สัปดาห์ คงไม่นานเกินไปหรอกเนอะที่ จะมีหุ่นสวยและผอมเพรียว ด้วย วิธีลดความอ้วนภายใน 7 สัปดาห์ นี้ หากว่าคุณสามารถใช้ วิธีลดความอ้วนภายใน 7 สัปดาห์ นี้ได้สำเร็จล่ะก็เชื่อว่า หุ่นสวย ๆ ไม่เกินเอื้อมปราถนาอย่างแน่นอนค่ะ และต่อไปอยากใส่ชุดไหนอวดใครตอนไหนก็ยังได้เลยหรือแม้แต่จะอวดหุ่นสวยตอนใส่ ชุดว่ายน้ำก็ไม่เป็นสองรองใครเลยนะขอบอกพูดมาก็มากแหละหลายคนคงจะอยากรู้ กัแล้วใช่ไหมค่ะว่า วิธีลดความอ้วนภายใน 7 สัปดาห์ "หุ่นสวย" นี้ต้องทำอย่างไรกันบ้างมาดูกันเลยค่ะ

6 วิธีลดความอ้วนภายใน 7 สัปดาห์

1. ใช้ฟิตเนสบอล
ถ้าคุณยังไม่มีก็ไปหาซื้อแบบที่ราคาไม่แพงมาสักใบหนึ่งได้แล้ว ใช้มันเพื่อออกกำลังกายหน้าท้องและขา 5 วันต่อสัปดาห์ ตอนเช้า 5-10 นาที มีทั้งท่าบริหารแบบง่าย ๆ และแบบยาก ๆ ที่หลากหลายพอจะให้คุณไม่เบื่อ

2. เพิ่มเติมการยกน้ำหนัก
ถ้าคุณยังไม่ได้ยกน้ำหนักเป็นประจำก็เริ่มต้นได้แล้ว ตั้งเป้าให้ได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งควรบริหารกล้ามเนื้อกลุ่มหลัก ๆ ทั้งหมด ทำแต่ละท่า (8-12 ครั้ง) 2-3 เซ็ต ใช้น้ำหนักที่หนักพอจะทำให้กล้ามเนื้อล้า เมื่อทำซ้ำครั้งสุดท้ายเริ่มจากกล้ามเนื้อกลุ่มใหญ่ ๆ เช่น ขา แขน แล้วค่อยบริหารกล้ามเนื้อกลุ่มเล็ก

3. เปลี่ยนการยกน้ำหนัก
ถ้าคุณยกน้ำหนักเป็นประจำอยู่แล้วลองท้าทายกล้ามเนื้อให้มากขึ้นมันเป็น เรื่องจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนการออกกำลังกายของคุณทุก ๆ 2-3 สัปดาห์ การเปลี่ยนแปลงสร้างความท้าทายให้ร่างกายต้องเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

4.เพิ่มความท้าทายให้การเสียเหงื่อ
เสริมการออกกำลังแบบอินเทอร์วัล (Intervals) เข้าไปในระหว่างการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ โดยเร่งจังหวะการออกกำลังให้หนักขึ้นในช่วงสั้น ๆ เป็นระยะ ๆ ตลอดการออกกำลังและนี่จะช่วยให้เผาผลาญแคลอรีได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น

5. ประเมินนิสัยการกินอาหาร
แม้กระทั่งการเปลี่ยนเล็กน้อยก็มีผลในการลดแคลอรี เช่น การลดเครื่องดื่มหวาน ๆ ที่เคยกินในแต่ละวันจะช่วยคุณประหยัดแคลอรีได้อย่างน้อย 1,000 แคลอรีต่อสัปดาห์

6. เคลื่อนไหวให้มากขึ้นในระหว่างวัน
อย่าประเมินอำนาจของการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่ำเกินไป เพราะนอกจากการออกกำลังประจำวันแล้ว พยายามเคลื่อนไหวให้มากขึ้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันจะช่วยเร่งการเผาผลาญแคลอรีของคุณอีกแรงหนึ่ง

หากทำตามดังนี้แล้ว ครบ 7 สัปดาห์ คุณจะมีหุ่นสวยใส่ชุดว่ายน้ำอวดหุ่นเพรียวบางได้อย่างไม่อายใครแล้วล่ะค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

- สูตรสปาเท้าด้วยตัวเอง


สูตร! "สปาเท้า" ด้วยตัวเอง "

เพื่อเท้าเนียนนุ่มสวย"

สปาเท้า 
วันนี้เรามีสูตรสปาเท้าด้วยตัวเองเพื่อเท้าเนียนนุ่มสวยมาฝากค่ะ ก็อากาศร้อนๆ แบบนี้ผิวเท้าอาจจะดำกระด้าง มีกลิ่น ด้าน หยาบกร้าน ไม่เนียนสวยเพราะแสงแดดทำร้ายผิวกันได้ วันนี้เราเลยอยากพาคุณผู้หญิงมาทำ สปาเท้า เพื่อให้เท้าของคุณได้ผ่อนคลายและอวดโฉมกับเทรนด์รองเท้าเปลือยที่สุดฮิตใน ขณะนี้กันได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียวในหน้าร้อนแบบนี้ค่ะ นอกจาการทำ สปาเท้า จะได้ความผ่อนคลายสบายผิวแล้วคุณยังจะได้ผิวเท้าสวยๆ เนียน นุ่ม กลับไปอีกด้วยค่ะ ว่าแล้วเรามาทำ สปาเท้าด้วยตัวเอง กันเลยดีไหมค่ะ ก็แน่ละซิว่าเราต้องให้คุณ สปาเท้าด้วยตัวเอง แต่เป็นแบบที่ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากค่ะ

สูตร! "สปาเท้า" ด้วยตัวเอง

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม กะละมังปากกว้างๆ น้ำสัปปะรดคั้นสดๆ สองถ้วยครึ่ง น้ำกระทิหนึ่งถ้วยครึ่ง หินขัดเท้า โลชั่นแบบเข้มข้น และถุงเท้าผ้าฝ้ายหนึ่งคู่

1. เทน้ำสัปประรดลงในกะละมังตามด้วยน้ำกะทิคนให้เข้ากันแล้วนั่งแช่เท้าในส่วน ผสมนั้นให้สบายเป็นเวลา 10-15 นาที (กรดผลไม้ตามธรรมชาติจะช่วยให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดลอกออกไป)

2. ล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้วเริ่มขัดผิวด้านๆ ด้วยหินขัดเท้า คุณควรดูให้ดีว่าผิวตรงไหนควรใช้แรงขัดขนาดไหนเพราะผิวหนังบ้างส่วนถ้าขัด แรงเกินไปก็อาจทำให้เกิดแผลถลอกได้

3. สุดท้ายก็เช็ดเท้าให้แห้งแล้วชะโลมโลชั่นลงไปเยอะๆ นวดให้ซึมเข้าไปในผิว จากนั้นสวมถุงเท้าเอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้หรือถ้าสวมนอนได้ก็จะ ยิ่งดีแล้วคุณจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับเท้าที่เนียนนุ่มน่าสัมผัส


**ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต**

- สูตรรักษาผิวหน้าใสสวย

สูตรรักษาผิวหน้า

สูตรรักษาผิวหน้า "สวยกระจ่างใส ไร้สิว"

วันนี้เรามีอีกสูตรรักษาผิวหน้าเพื่อสวยกระจ่างใส ไร้สิว มาฝากกันด้วยจ๊ะ สำหรับ สูตรรักษาผิวหน้า เป็นสูตรความลับที่ไม่ลับอีกต่อไปเพราะวันนี้เราจะมาแถลงไขถึง สูตรรักษาผิวหน้า ให้กับคุณผู้หญิงและคนที่อยากจะมี ผิวสวย ผิวกระจ่าง ผิวใส และที่สำคัญยังไร้สิวมากวนใจอีกด้วยค่ะ ฮันแน่...อยากรู้สูตรรักษาผิวหน้าสูตรนี้กันแล้วใช่ไหมล่ะค่ะ ขอบอกเลยค่ะว่าสูตรรักษาผิวหน้าที่เรานำมาฝากันในวันนี้เป็นสูตรที่ไม่ยุ่ง ยากในชีวิตประจำวันของคุณอีกด้วยแล้วต่อไปคุณคงไม่ต้องกังวลเรื่องผิวหน้า อีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ นั้นเรามาทำให้ผิวหน้าเราน่ามองด้วยสูตรรักษาผิวหน้ากันเถอะนะค่ะ

เคล็ดลับ สูตรรักษาผิวหน้า "สวยกระจ่างใส ไร้สิว"

1. รักษาความสะอาด ควรล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้ง เพื่อลดความมัน

2. หลังทำกิจกรรมที่มีเหงื่อออกมากควรล้างหน้าทุกครั้งเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก ความมัน และแบคทีเรียบนใบหน้า

3. ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่สามารถขจัดแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการ เกิดสิว หรือที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากพืชธรรมชาติที่เหมาะกับสภาพผิว

4. ระหว่างที่เป็นสิวควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ใส่ผมหรือเครื่องสำอางที่มีความเหนียว เหนอะหนะ เพราะสารในผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะตกค้างอยู่แถวๆ ตีนผมซึ่งจะทำให้เกิดการระคายเคืองและเป็นสิว

5. ห้ามบีบหรือแกะสิวเป็นอันขาดเพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นที่รักษาได้ยาก

6. ควรรักษาสุขภาพโดยทั่วไปให้ดีอยู่เสมอ เช่น รับประทานผัก ผลไม้ น้ำผลไม้ และน้ำสะอาด ให้มากๆ พยายามอย่าเครียดหรือนอนดึก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

- วิธีทําให้ผมยาวเร็ว


ทําอย่างไรให้ผมยาวเร็ว? "วิธีทําให้ผมยาวเร็ว" อย่างได้ผลอยู่นี่แล้ว!

วิธีทําให้ผมยาวเร็ว 
ใครอยากผมยาวเร็ววันนี้ได้สมปราถนากันแล้วนะค่ะ กับวิธีทําให้ผมยาวเร็วอย่าง ได้ผลที่เรานำมาฝาก คนที่มักมีคำถามที่เกิดขึ้นในใจว่า "ทําอย่างไรให้ผมยาวเร็ว?" วันนี้ก็ได้เฮกันแล้วนะค่ะ เพราะ วิธีทําให้ผมยาวเร็ว นี้ช่วยคุณได้ แล้วคุณรู้ไหมค่ะว่าโดยปกติเส้นผมของคนเรานั้นจะยาวเดือนละครึ่งนิ้ว แต่ถ้าอยากให้ผมยาวเร็วกว่านี้ก็ต้องใช้ วิธีทําให้ผมยาวเร็ว สูตรนี้เลยนะค่ะ ต่อไปคงจะหมดคำถามที่ว่า "ทําอย่างไรให้ผมยาวเร็ว?" กันแล้วนะค่ะ และไม่ใช่แค่วิธีทําให้ผมยาวเร็วเท่านั้นนะค่ะเรายังมีวิธีดูแลผมสวยปิ๊งมา ฝากอีกด้วยนะค่ะ นั้นไม่ต้องรอช้ามาดูวิธีทําให้ผมยาวเร็วกันเลยดีกว่าค่ะ 

ทําอย่างไรให้ผมยาวเร็ว? "วิธีทําให้ผมยาวเร็ว"

- หลังจากที่เราสระผมและนวดผมเรียบร้อยแล้วให้ใช้ผ้าขนหนูค่อย ๆ ซับผมเบา ๆ แต่อย่าขยี้ผมแรง ๆ โดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้เส้นผมขาดหลุดร่วงได้ง่ายและเร็วกว่าเดิม

- จากนั้นให้บดกล้วยหอมผสมกับน้ำผึ้ง พอกให้ทั่วทั้งศีรษะ ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก

- หากใครไม่สะดวกวิธีนี้ลองใช้สูตรดอกอันชัญดูก็ได้ค่ะ เพียงนำดอกอันชัญมาคั้นเอาน้ำจนได้น้ำอันชัญสีน้ำเงินอมม่วงออกมา หลังจากนั้นนำไปหมักผมทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้จะทำให้ผมดูดกดำเงางามแถมยังยาวเร็วได้อีกด้วยคะ

- แต่ถ้าคุณเป็นคนผมแห้งต้องการให้ผมดูเงางามลองใช้แฮร์โค้ตประมาณ 2-3 หยด ชโลมและนวดให้ทั่วศีรษะ แต่ถ้าเป็นคนผมมันไม่ควรทำวิธีนี้นะคะ

- และที่สำคัญอย่าลืมที่จะทำทรีทเม้นสัปดาห์ละครั้งเพราะจะทำให้มีสุขภาพผมที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สสส. ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

- เจ้าชู้





พูดถึงความ "เจ้าชู้" หลายคนโบ้ยว่าก็เห็นเป็นกันได้ทุกคนนั่นแหละ แต่คนไหนล่ะจะมีดีกรีของความเจ้าชู้อยู่ในระดับรุนแร ง รุงรัง และเยื้อยื้อขนาดไหน ตรงนี้ต่างหากที่น่าสนใจ แล้วพอไปถามใครต่อใครว่า เป็นคนเจ้าชู้รึเปล่า? อู้ย...มักได้คำตอบในเชิงปฏิเสธนะสิยะ เฮ่อ.... ไม่ยอมรับความจริง หรือคิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นแบบนี้จริงๆ....ก็บ่ฮู้


แต่เป็นไงเป็นกัน คราวนี้อยากทราบแหละกันว่า คุณจะทนได้ไหมหากมีแฟนเป็นคนเจ้าชู้? ไอ้หยา ถามอะไรในลักษณะขวานผ่าซากหยั่งงี้นี่! ซึ่งก็ได้คำตอบไปต่างๆนานา ดังนี้.... หนูหนิง วัย 28 ปี ตอบได้เจ็บแบบทีเล่นทีจริงว่า ถ้ารู้ว่าแฟนเจ้าชู้จะไม่ยอมแน่ๆ แต่ถ้าหนูเจ้าชู้เองสิ หากเค้าทำเคือง, พูดมากหรืองอนใส่ เป็นได้เห็น ดีกัน....โอ้โห...โชว์ความเป็นเจ้าแม่ตัวจริงเสียงแท ้ ออกมาเลยวุ้ย ว่าแต่ที่พูดเนี่ย ทำจริงรึเปล่าจ๊ะ
ส่วนน้องฝน วัยไม้ใกล้ฝั่ง...เอ๊ย...วัยไม่เกิน 30 ขวบ กลับให้ความเห็นอีกมุมว่า ใครจะไปอยากมีแฟนเจ้าชู้...ถามได้ แต่เรื่องจะไปห้ามแฟนไม่ให้เจ้าชู้เป็นเรื่องยากมาก (ขนาดนั้นเชียว เอ้าเชื่อเค้าหน่อย) "ขอเพียงอย่าแสดงว่า เจ้าชู้สุดลิ่มทิ่มประตู หรือหลีคนอื่นเว่อร์เกินไปละกัน ไม่งั้นคงทนกันไม่ได้ ตรงข้าม หากเค้าเจ้าชู้เล่นๆ หรือเจ้าชู้เป็นบางครั้งบางคราวก็ยังพอหยวนๆ กันไป"....เอ่อ แล้วจะรู้ได้ไงละเนี่ยว่าแฟนของน้องน่ะทำเจ้าชู้เล่น ๆ หรือเจ้าชู้ไปงั้นเองอ่ะน้อง

ด้านหนูอ้อย วัยเลยเลข 3 ไปเล็กน้อย อธิบายแบบฟันธงว่า ถ้าตอนควงกันก็จับได้ไล่ทันแล้วว่าเค้าเจ้าชู้ละก็ คงไม่ทู่ซี้หลงลมปากยอมเป็นแฟนกะเค้าหรอก "แต่การคบหากันของหนุ่มสาวส่วนใหญ่ไม่งั้นซิ....เพราะ ไอ้ตอนคบกัน อีกฝ่ายไม่ยักกะแสดงความเจ้าช้งเจ้าชู้ให้เห็นแฮะ ตรงข้าม เมื่อเป็นแฟนกันแล้วดิ่กลับ "ออกลายเสือผู้หญิงออกมาเชียว" หยั่งงี้ก็ต้องอยู่ที่ดวงใครดวงมันแล้วละ ว่าจะตาถั่วหรือตาถึงเลือกใครมาเป็นแฟน เพราะเราจะไปรู้อนาคตได้ไง ถ้าอยากมีแฟนก็ต้องเสี่ยงดวงเอาละกัน....ฟังเข้าท่าน ่าเลื่อมใส คงมีประสบการณ์เพียบเลยละซิ
เอ้า...ให้โอกาสหนุ่มๆ แสดงความเห็นกันมั่ง หนุ่มเอบอกได้กวนประสาทมากว่า ใครจะเจ้าชู้ยังไง ก็ไม่รู้สิ แต่ผมไม่เจ้าชู้ละกัน มีแฟนแค่ 2-3 คนเอง...คงน้อยไปใช่ไหมเพ่

ส่วนแจ๊คหนุ่มหน้าตาดี ดันถามกลับว่า ถ้าเห็นสาวสวยแล้วอดหลีไม่ได้...แบบนี้ก็ถือว่า เจ้าชู้ มะ? "แหมทีผู้หญิงบางคนยังมาว่านเสน่ห์ผมก่อนเลย แล้วผมก็รู้ซะด้วยนะว่าหล่อนควงคนอื่นมา" เอองั้นเอาเป็นว่า ฝ่ายหญิงก็เจ้าชู้เป็น จะหมายความตามนี้หยั่งงั้นล่ะซี!

แต่แหม....หากพูดถึงความเจ้าชู้ของผู้หญิงละก็ ยังไง้ยังไงก็คงกล้าแหกด่านไปจี๋จ๋าเจ้าชู้กะคนแปลกห น้าน้อยกว่าฝ่ายชายละมั้ง เพราะฮอร์โมนขับดันในด้านนอกใจนอกกายน่ะไม่น่าแข็งแก ร่งกว่าหนุ่มๆนะ ยกเว้นกรณีที่สาวๆดันรู้ซะก่อนว่าแฟนของหล่อนมีพฤติก รรมเป็นอื่น หรือซุกซ่อนใครอื่นไว้ ก็เป็นไปได้ที่หล่อนจะน้อยใจจนอยากหาที่ "ซับน้ำตา" และ "ที่พักใจ" ใหม่ๆ เป็นธรรมดา
ว่า แล้ว ก็มาเช็กตัวเองกันดีฝ่าว่า คุณอยู่ในข่ายที่จะเป็น 1 ในสมาชิกชมรมคนเจ้าชู้หรือไม่? กันเหอะ ด้วยการตอบคำถามต่อไปนี้ เพียงแค่ตอบใช่หรือไม่ใช่ เท่านั้นพอ เช่น....

1. คุณชอบไปงานปาร์ตี้เพราะชอบพบปะผู้คนหน้าใหม่ๆ ใช่ปะ?

2. คุณมีประวัติเรื่องการผ่านความรักมาอย่างโชกโชน หรือมีอดีตรักให้พูดถึงมากมาย แบบว่าอย่างน้อยก็น่าจะมีกิ๊กเป็น 10 คนขึ้นไปใช่มะ?

3. คุณเคยลืมตัวหลุดปากเรียกชื่อแฟนเป็นชื่อของคนอื่นบ้ างม้า?

4. คุณคิดว่าความรักคือการแบ่งปัน ไม่ใช่ การเป็นเจ้าข้าวเจ้าของงั้นเรอะ?

5. คุณไม่ได้มองว่า ความรักเป็นเพียงเรื่องของคนสองคน แต่เป็นเรื่องจี๋จ๋ากันทีเป็นกลุ่ม อย่างงี้ปะ?

6. คุณมีพรสวรรค์ด้านการพูดภาษาดอกไม้ แถมชอบพูดกับเพศตรงข้ามชนิดพูดคำแล้วปล่อยคำชมไปเป็น 10 หรือคอยป้อยอเอาใจ โดยไม่มีคำกระแหนะ-กระแหนให้ได้ยินสักแอะใช่มะ?

7. คุณชอบแต่งตัวชนิดขอเท่ไว้ก่อน เมื่อต้องไปงานปาร์ตี้ทุกทีเลยใช่ม้า?

8. คุณสนใจแต่คนที่หน้าตาดีเท่านั้น ส่วนคนที่หน้าตาธรรมดากลับไม่สามารถดึงดูดให้ คุณอยากเข้าใกล้ได้แฮะ ใช่มะ?

9. คุณชอบใส่แว่นกันแดดซำเหมอเลย แม้อยู่ในที่ร่มก็ยังใส่แว่นเพื่อสร้างความเท่ให้ตัว เองอยู่ได้จริงอ่ะ?.... อ่ะขอแซวหน่อยเหอะว่า บางคนใส่แว่นกันแดดที่ไม่รับกะใบหน้า ก็ไม่เห็นทำให้ตัวเองดูดีขึ้นมาเลย ตรงข้ามกะบางรายถ้ายิ่งไม่ใส่แว่นกันแดดดิ่...โอ้ยโห ยวดูไม่จืดเชียวฮ้า

10. คุณเคยโดนตามรังควาน ตามตบ, ตามทุบ, ตามถองและตามเหยียบ เพราะเผอิญไปทำกุ๊กกิ๊กจุ๊กจิ๊กกะคนที่มีแฟนแล้ว และเจ้าของเค้าดันรู้เข้าน่ะสิ แต่ด้วยความเป็นคนเจ้าชู้มืออาชีพระดับนี้แล้ว จึงรู้สึกว่าเวลาโดนยำทีนก็เป็นเรื่องธรรมดา มิใช่เรอะ?

เอาล่ะ หวังว่าทุกท่านคงตอบกันได้ครบถ้วน (บางคนไม่ต้องตอบอะไรกลับรู้ใจตัวเองตั้งแต่แรกใช่ปะ ว่าชอบขายขนมจีบ เพราะจีบคนอื่นแหลกลาญมานานแค่ไหนแล้ว อิอิ) ซึ่งหากคุณตอบใช่มากกว่าไม่ใช่ เพราะอ่านแล้ว เออแฮะ เราทำตัวเหมือนยังงั้นเลย

ก็ขอมอบประกาศนียบัตรเพื่อรับรองว่า คุณได้รับเชิญให้เข้ากลุ่มจอมเจ้าชู้เป็นที่เรียบร้อ ย ดังนั้น ถ้าท่านใดปลื้มใจกับพฤติกรรมสำเริงสำราญนี้ก็เชิญเถอ ะฮ้า แต่ระวังจะไม่มีวันเจอรักแท้

*
***************************************
*
เป็นธรรมดาที่ คนที่มี หน้าตาหล่อ (หรือพอใช้ได้) คารมดี หุ่นดี มีเงิน มีรถขับ แน่นอนว่า
จะมีสาวๆ เข้ามาในชีวิตมากมายเหลือเกิน

“มัน” ซึ่งต้องยอมรับว่ามีคุณสมบัติเกือบครบถ้วน และ”มัน” ก็ยอมรับว่าเป็นคนเจ้าชู้คนหนึ่ง
เขาเล่าถึง ความเจ้าชู้ของเขาว่า .....
(( หมายเหตุ ... หากท่านใดรู้สึกว่าคำว่า “มัน” หยาบคาย ก็นึกซะว่าเป็นชื่อเล่นของเขาละกันนะ
หรือถ้าใครไม่ชอบ “มัน” จะเอา “เผือก” ก็สมมุติว่าเป็นเผือก ละกันนะ))

ME : “คนเจ้าชู้ ทำไง?” ( ผู้ถามเป็นคนซื่อ ไม่ค่อยรู้ )
มัน : “การที่ได้ฟันผู้หญิงสักคน เหมือนการเล่นเกมส์ เป็นเกมส์ที่จบลงด้วยชัยชนะจากการได้มี
เพศสัมพันธ์กัน ก่อนอื่นคือ ต้องทำให้ผู้หญิงคนนั้นรักเขาเสียก่อน โดยการทำทุกอย่างเพื่อ
แสดงให้ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกว่าเรารักเขามีเขาคนเดียว โดยเริ่มจากไปรับไปส่ง พาไปดูหนังฟังเพลง
ซื้อของให้ เอาใจทุกอย่าง หรือแม้แต่พามาเจอพ่อแม่ ซึ่งจริงๆ เขาไม่ได้คิดจริงจังอะไรเลย สักนิดเดียว
แต่หลังจากมีอะไรกับหญิงคนนั้นไปแล้ว ความดีต่างๆ ที่เคยทำให้ก็จะเลิกทำไปในทันที “

ME : "ทำไมล่ะ?"
มัน : ตอบว่า "หลังจากมีอะไรกันแล้วฝ่ายผู้หญิงมักจะเป็นฝ่ายมาตามเขาเอง ฝ่ายผู้หญิงจะกลายเป็น
ของตายสำหรับเขา เพราะได้เสียกันแล้ว แต่สักพักหลังจากเริ่มเบื่อแล้วเขาก็จะเริ่มมองหา
ผู้หญิงใหม่ เขาก็จะไปบอก ผู้หญิงคนนั้นว่า "จะคบต่อก็ได้นะ แต่ต้องให้เขาคบผู้หญิงคนอื่นด้วย”
แน่นอนส่วนใหญ่ไม่ยอม เสียใจ ร้องห่มร้องไห้ แล้วก็เลิกกันไป เข้าตามแผน
แล้วเขาก็มองหาเป้าหมายใหม่ และก็มีบ้างซึ่งเป็นส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่ยอมเลิก เพราะรักเขามาก



ME : "คนที่เจ้าชู้ ถ้ามีผู้หญิงคนหนึ่งรู้ว่าเขาเจ้าชู้แต่รักมาก ยอมให้ไปเจ้าชู้ได้ แล้วจะรักเธอไหม? "
มัน : ตอบว่า "ก็รักไปอย่างนั้น แหล่ะ เพราะคนเจ้าชู้ มันจะไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองพอ ไม่มีคำว่าพอ
เรื่องผู้หญิง...ผู้หญิงที่ทำแบบนั้นคือเสียเวลาเปล่าๆ "

ME : “คนที่เจ้าชู้ ส่วนใหญ่ชอบผู้หญิงแบบไหน?”
มัน : ตอบว่า "ชอบแบบที่มีรสชาติ ไม่เรียบร้อยเกินไป ชอบผู้หญิงที่เอาใจเก่งและที่แน่ๆ
คือใจง่ายจะชอบมาก ยิ่งเลิกง่ายด้วยยิ่งดี"

ME : "คนเจ้าชู้ ส่วนใหญ่เวลาเห็นผู้หญิงคิดถึงอะไรก่อน?"
มัน : ตอบว่า "sex"

ME : "นานแค่ไหนหลังจากมีอะไรกัน ถึงจะเบื่อ"
มัน : "ถ้าสวยๆ Sex เก่งๆ ก็ประมาณ 10 กว่าครั้ง แต่ถ้าไร้ลีลา สนุกๆ ก็แค่สัก 2-3 ครั้ง"

ME : "เวลาเลิกกันไปกับผู้หญิงเคยสงสารผู้หญิงบ้างไหม?
ทำไมไม่มีความรู้สึก ผูกพันอะไรกันเลยหรือ?"
มัน : " ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย เพราะว่ามีคนใหม่ๆ เข้ามาตลอดเวลา"
ME : "รักเขาบ้างหรือเปล่า?"
มัน : "รัก แต่รักด้วยปากไม่ใช่รักด้วยใจ
คนที่เจ้าชู้มักจะมี Sex กับผู้หญิงได้เกือบทุกวัน บางวันก็มีผู้หญิงมาหาเองมานอนกับเขาเอง
โดยที่เขาอยู่เฉยๆ บางคนสามารถคบผู้หญิงได้ในเวลาเดียวกัน 3-4 คน หรือมากกว่านั้น
เพราะในสายตาของเพื่อนในกลุ่มแล้วการกระทำดังกล่าวกลายเป็นการมองว่าเป็นเรื่องเก่ง
บางครั้งกลายเป็นการแข่งขัน พนันกันในกลุ่ม คนพวกนี้จะมีโทรศัพท์มือถือหลายเครื่อง
เปลี่ยนเบอร์ใหม่ๆ เกือบทุกเดือน เรียกว่าพร้อมสำหรับการหลอกผู้หญิง



ME : "เคยรักใครจริงๆ ไหม?"
มัน : "ไม่มีใครเป็นพิเศษเลย รักหมดทุกคนเท่ากัน"
ME : "แล้วเวลาคบผู้หญิงทีล่ะหลายๆ คน แล้วเลือกใครไม่ได้นี่เป็นเพราะอะไร?"
มัน : "อยู่กับคนหนึ่งก็น่ารักนิสัยดี อยู่ด้วยแล้วสบายใจ อีกคนสวย Sex เก่ง หุ่น Sexy ดี
อยู่ด้วยแล้วสบายกาย เลือกไม่ได้เลยเหมาหมด แต่ถ้ามีผู้หญิงเป็นฝ่ายมาชอบเขาเอง
ถ้าหน้าตาไม่ได้ขี้เหร่อะไรมาก ใจง่าย เขาก็จะมี Sex ด้วย" (น้านนน..ตอบแบบหน้าตาเฉย)

ME : "ที่ฟันแล้วทิ้งล่ะ ทำไมถึงทำแบบนี้?"
มัน : "อารมณ์มันพาไปเท่านั้นเอง ไม่มีความรักเลย มีแต่ความใคร่ เหมือนได้ชนะอะไรบางอย่าง
ก็แค่นั้นเอง"
ME : "ผู้หญิงเขาเสียใจมากรู้บ้างไหม?"
มัน : "ไม่รู้ ไม่มีเวลาคิดหรอกว่าใครเสียใจ เพราะไม่เคยคิดเลย''

ME : "ที่ผู้หญิงมักจะบอกว่าคบกันนานๆแล้ว มักจะเปลี่ยนไป แล้วเปลี่ยนไปจริงหรือ?"
มัน : "จริงๆ ไม่ได้เปลี่ยนไป แค่ปล่อยตัวตนที่แท้จริงออกมาเท่านั้น หลังจากได้มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น
แล้ว และมีที่หมายใหม่แล้ว"

ME : "แล้วเวลาคบใครไปสักพัก แล้วหายไปเสียเฉยๆ ล่ะ หมายความว่ายังไง?"
มัน : "เพราะว่า 1. กลัวเขาเสียใจ 2.กลัวเขาไม่ยอมเลิก 3.ไม่ได้คิดอะไรเลย เฉยๆ
แค่ไม่อยากคบต่อแล้วแต่ไม่อยากบอกให้รู้" ก็แค่นั้น



นี่คือคนเจ้าชู้คนหนึงที่ยินดีให้คำตอบจากประสบการณ์ชีวิตรักของเขา เลยอยากเล่าให้ฟัง
เพื่อเป็นการเตือนสติ คนที่กำลังคิดจะปล่อยตัว และปล่อยใจให้คนรัก

สุดท้าย “มัน” ฝากไว้ว่า “ของภายนอกที่คุณเห็นอาจไม่เป็นอย่างที่คุณคิด ขอให้ใช้สติรู้จักแยกแยะ
และใช้เวลาในการพิจารณาเพื่อจะได้เข้าให้ถึงภายในของความรู้สึกนึกคิดในจิตใจที่แท้จริงของคน
ที่คุณคิดจะฝากชีวิตไว้กับเขา และจงอย่าปล่อยตัวเผลอใจให้ว่องไวนัก
โปรดอย่าลืมว่าของมีค่านั้นหากได้มาง่ายๆแล้วใครจะเห็นค่าของสิ่งนั้นละจ้ะ”


คำสารภาพ ของ " L "...

" ไม่กล้าเจ้าชู้ เพราะคุณเมียดุ...ช - อิ - อ๋าย " เลย อิอิ


มีใครอยากสารภาพอะไร ก็เชิญนะจ้ะ...รับรอง
ไม่เอาไปฟ้องคนที่บ้าน....

^v^

- เทคนิครัก อย่างผู้หญิงฉลาด.!

เมื่อ ความรักเป็นสิ่งสวยงามแต่ถ้ารักอย่างไม่มีสติ ก็ทำร้ายตัวเราได้ๆง่ายๆ ค่ะ งานนี้สาวๆ มาเรียนรู้วิธีรักแบบผู้หญิงฉลาดกันดีกว่า....
1.รู้ว่า... ต้องใช้ชีวิตคุ้มค่า เมื่อมีคนรัก จงปรับเปลี่ยนเฉพาะในส่วนที่ทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น หากคุณเปลี่ยนแปลงไปทุกอย่างกลายเป็น ผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งเขาไม่คุ้นเคย เขาก็จะค่อยๆ หมดความสนใจในตัวคุณ ถ้าคุณมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง แล้วใครจะมองเห็นคุณค่าของคุณจริงไหม?
2.รู้ว่า... เซ็กส์ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าคุณจะหลงเสน่ห์เขาแค่ไหน ไม่ว่าความสัมพันธ์จะดำเนินต่อไปอย่างไรก็อย่าลืมว่าคนแปลกหน้า ก็ยังเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี ถึงประวัติส่วนตัวเขาจะดี แต่ที่แน่ ๆ คุณไม่มีโอกาสรู้ว่าเขามีโรคติดต่อทางเพศหรือเปล่า ไม่จำเป็นที่คุณต้องมีอะไรกับเขาถ้าคุณยังไม่พร้อมในทุกด้าน เรารู้จักรักผู้ชายได้โดยไม่ต้องมีเซ็กส์ได้
3.รู้ว่า... ผู้ชายแสนดีไม่จำเป็นต้องหล่อ ถ้าเขาคนนั้นทำให้คุณมีความสุข อบอุ่น หัวเราะได้มีความชอบอะไรเหมือนกันหลายอย่าง แถมเขายังฉลาด แต่ไม่หล่อเลย คุณสาว ๆ ลองไปเดินสังเกตุตามซูเปอร์มาเก็ตดู ผู้ชายที่มาซื้อของกับครอบครัวหรือเล่นอยู่กับลูกๆ ตามชายหาด ผู้ชายเหล่านี้หน้าตาอาจจะไม่เหมือนนายแบบในนิตยสารเลย แต่เขานี่แหละที่เหมาะจะเป็นพ่อของลูกคุณ
4.รู้ว่า... ความรักมีปริมาณ 50-50 สิ่งที่คู่รักต้อง การ คือ ความรักที่พบกันครึ่งทางมีการให้และรักอย่างสมดุล ต่างฝ่ายต่างเอาใจใส่ห่วงใยกัน ช่วยเหลือกัน มอบความรักให้อีกฝ่ายเท่าเทียมกัน ไม่มากเกินไป หรือน้อยเกินไป
5.รู้ว่า... คุณไม่มีวันเปลี่ยนแปลงผู้ชายได้  เหตุผล ก็คือ คุณไม่สามารถและไม่สมควรที่จะพยายามเปลี่ยนสิ่งที่เขาชอบหรือไม่ชอบ ไม่มีใครเปลี่ยนใครได้นอกจากตัวของเขาเอง เก็บพลังใจกายและเวลาอันมีค่าที่จะสูญเสีย ไปไว้ให้กับคนที่ต้องการความสัมพันธ์ดี ๆ กับเราดีกว่า หรือทำอะไรก็ได้ร้อยแปดประการที่ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น หากเขาแสดงการไม่ให้เกียรติคุณเขาก็ไม่สมควรที่จะได้รับความรัก ห่วงใยจากคุณอีก ถ้าปล่อยให้เขาทำตัวแย่กับเรา เขาก็จะแย่ลงเรื่อย ๆ
6.รู้ว่า... เป็นคนรักต่างกับคนรับใช้ จริงแล้วผู้ชาย ที่มีความรับผิดชอบดี เขาจะไม่ชอบผู้หญิงที่อ่อนแอและเป็นเบี้ยล่างให้เขาตลอดเวลา หรือเกรงใจผู้อื่นจนปฏิเสธใครไม่เป็น เราต้องรู้จักปฏิเสธและโต้กลับบ้าง การปฏิเสธข้อเรียกร้องของคนอื่นบ้างไม่ใช่เรื่องหยาบคาย
7.รู้ว่า... การแต่งงานไม่ใช่กระดาษแผ่นเดียว ใบ ทะเบียนสมรสไม่ใช่สิ่งที่จะรับรองว่าชีวิตคู่ของคุณจะอยู่กันตลอดรอดฝั่ง แต่การแต่งงานนั้นเป็น "งาน" จริง ๆ งานที่ต้องช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ ต้องทำความตกลงกันในหลายเรื่องอาศัยการประนีประนอม และหมายถึง การใช้ชีวิตซ้ำ ๆ ในแต่ละวันกับมนุษย์คนเดิม ซึ่งเขาอาจจะไม่จำเป็นต้องได้ดั่งใจคุณทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องรู้สึกหรือมีความคิดเห็นเหมือนคุณทุกเรื่องและชีวิตคู่ไม่ต้อง โรแมนติกตลอดเวลาก็สามารถมีความหมายลึกซึ้งและเป็นรักที่แท้และฉลาดได้
8.รู้ว่า... ไม่ควรประจานข้อบกพร่องของตัวเองให้เขาฟัง ทุกคนย่อมมีข้อเสียหรือนิสัยแย่ ๆ กันทั้งนั้น แต่ก็ไม่ต้องไม่แฉทั้งหมดว่า เรามีข้อเสียอะไรบ้าง เพราะอาจจะทำให้ต้องโบกมือลา ตั้งแต่ก่อนจะได้คบกัน และแน่นอนหนุ่ม ๆ ของคุณก็มีข้อเสียเช่นกัน ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าคุณทั้งคู่จะปรับตัว ปรับใจ ยอมรับนิสัยแย่ ๆ ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็คงต้องลาจากกัน
9.รู้ว่า... ต้องไม่เป็นหนังสือที่อ่านง่ายสำหรับเขา คงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า อะไรที่ได้มาอย่างง่าย ๆ มันก็ไปง่าย ๆ ได้เช่นกัน หรือดูไม่มีคุณค่าให้รักษานั่นเอง
 
- รู้อย่างนี้แล้ว นำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตรักของตัวเองดูนะคะ!!!

- รู้จักรักอย่าง ผู้หญิงฉลาด

มีเคล็ดลับการ "รัก" อย่างฉลาด มาฝากคุณสาว ๆ

    1. รู้ว่า...ต้องใช้ชีวิตคุ้มค่า
      เมื่อมีคนรัก จงปรับเปลี่ยนเฉพาะในส่วนที่

ทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น หากคุณเปลี่ยนแปลงไปทุกอย่างกลายเป็น ผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งเขาไม่คุ้นเคย เขาก็จะค่อย ๆ หมดความสนใจในตัวคุณ ถ้าคุณมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง แล้วใครจะมองเห็นคุณค่าของคุณ

    2. รู้ว่า...เซ็กส์ไม่ใช่เรื่องง่าย

     ไม่ว่าคุณจะหลงเสน่ห์เขาแค่ไหน ไม่ว่าความสัมพันธ์จะดำเนินต่
อไปอย่างไรอย่าลืมว่าคนแปลกหน้าก็ ยังเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี ถึงประวัติส่วนตัวเขาจะดี แต่ที่แน่ ๆ คุณไม่มีโอกาสรู้ว่าเขามีโรคติดต่อทางเพศหรือเปล่า ไม่จำเป็นที่คุณต้องมีอะไรกับเขาถ้าคุณยังไม่พร้อมในทุกด้าน เรารู้จักรักผู้ชายได้โดยไม่ต้องมีเซ็กส์ได้

    3. รู้ว่า...ผู้ชายแสนดีไม่จำเป็นต้องหล่อ
      ถ้าเขาคนนั้นทำให้คุณมีความสุข อบอุ่น หัวเราะได้มีความชอบอะไรเหมื
อนกันหลายอย่าง แถมเขายังฉลาด แต่ไม่หล่อเลย คุณสาว ๆ ลองไปเดินสังเกตุตามซูเปอร์มาเก็ตดู ผู้ชายที่มาซื้อของกับครอบครัวหรือเล่นอยู่กับลูก ๆ ตามชายหาด ผู้ชายเหล่านี้หน้าตาอาจจะไม่เหมือนนายแบบในนิตยสารเลยแต่เขานี่แหละที่ เหมาะจะเป็นพ่อของลูกคุณ 

    4. รู้ว่า…ความรักมีปริมาณ 50-50

      สิ่งที่คู่รักต้องการ คือ ความรักที่พบกันครึ่งทางมี
การให้และรักอย่างสมดุล ต่างฝ่ายต่างเอาใจใส่ห่วงใยกัน ช่วยเหลือกัน มอบความรักให้อีกฝ่ายเท่าเทียมกัน ไม่มากเกินไป หรือน้อยเกินไป

    5. รู้ว่า...คุณไม่มีวันเปลี่ยนแปลงผู้ชายได้

      เหตุผลก็คือ คุณไม่สามารถและไม่สมควรที่
จะพยายามเปลี่ยนสิ่งที่เขาชอบหรือไม่ชอบ ไม่มีใครเปลี่ยนใครได้นอกจากตัวของเขาเอง เก็บพลังใจกายและเวลาอันมีค่าที่จะสูญเสียไปไว้ให้ กับคนที่ต้องการความสัมพันธ์ดี ๆ กับเราดีกว่า หรือทำอะไรก็ได้ร้อยแปดประการที่ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น หากเขาแสดงการไม่ให้เกียรติคุณเขาก็ไม่สมควรที่จะได้รับความรัก ห่วงใยจากคุณอีก ถ้าปล่อยให้เขาทำตัวแย่กับเราเขาก็จะแย่ลงเรื่อย ๆ

    6. รู้ว่า...เป็นคนรักต่างกับคนรับใช้

      จริงแล้วผู้ชายที่มีความรับผิ
ดชอบดี เขาจะไม่ชอบผู้หญิงที่อ่อนแอและเป็นเบี้ยล่างให้เขาตลอดเวลาหรือเกรงใจผู้ อื่นจนปฏิเสธใครไม่เป็น เราต้องรู้จักปฏิเสธและโต้กลับบ้าง การปฏิเสธข้อเรียกร้องของคนอื่นบ้างไม่ใช่เรื่องหยาบคาย

    7. รู้ว่า...การแต่งงานไม่ใช่กระดาษแผ่นเดียว


      ใบทะเบียนสมรสไม่ใช่สิ่งที่จะรั
บรองว่าชีวิตคู่ของคุณจะอยู่กันตลอดรอดฝั่ง แต่การแต่งงานนั้นเป็น"งาน"จริง ๆ งานที่ต้องช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ ต้องทำความตกลงกันในหลายเรื่องอาศัยการประนีประนอม และหมายถึงการใช้ชีวิตซ้ำ ๆ ในแต่ละวันกับมนุษย์คนเดิมซึ่งเขาอาจจะไม่จำเป็นต้องได้ดั่งใจคุณทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องรู้สึกหรือมีความคิดเห็นเหมือนคุณทุกเรื่องและชีวิตคู่ไม่ต้อง โรแมนติกตลอดเวลาก็สามารถมีความหมายลึกซึ้งและเป็นรักที่แท้และฉลาดได้

    8. รู้ว่า...ไม่ควรประจานข้อบกพร่องของตัวเองให้เขาฟัง

      ทุกคนย่อมมีข้อเสียหรือนิสัยแย่ ๆ กันทั้งนั้น แต่ก็ไม่ต้องไม่แฉทั้งหมดว่า เรามีข้อเสียอะไรบ้าง เพราะอาจจะทำให้ต้องโบกมือลา ตั้งแต่ก่อนจะได้คบกัน..และแน่
นอนหนุ่ม ๆ ของคุณก็มีข้อเสียเช่นกันก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าคุณทั้งคู่จะปรับตัว ปรับใจ ยอมรับนิสัยแย่ ๆ ได้ไม ถ้าไม่ได้ก็คงต้องลาจากกัน

    9. รู้ว่า...ต้องไม่เป็นหนังสือที่อ่านง่ายสำหรับเขา

      คงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า อะไรที่ได้มาอย่างง่าย ๆ มันก็ไปง่าย ๆ ได้เช่นกัน หรือดูไม่มีคุณค่าให้รักษานั่
นเอง

    10. รู้ว่า...อย่าเรียกร้องความเท่าเทียมจากผู้ชาย ถ้าคุณยังดูแลตัวเองไม่ได้


      หากคุณยังไม่มีความเข้มแข็งพอ หรือดูแลตัวเองยังไม่ได้ แล้วอย่างนี้เราจะมีสิทธิ์
อะไรไปต่อกรกับผู้ชายแมนๆ เขาได้ ดีไม่ดีจะโดนดูถูกเอาด้วย

      สาว ๆ คนไหน อยากรักอย่างฉลาด ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปประยุกต์
ใช้กับความรักตัวเองได้

- ใครใจง่าย?

อยากรู้ไหมว่า ใครใจง่าย?
มาสังเกตลีลาของพวกใจง่ายกัน ว่า มีพฤติกรรมแบบไหนกัน
บางคนกว่าจะชอบหรือรักใครสักคน ต้องเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อน, ปรึกษาพี่ ปรึกษาน้อง (แต่พ่อแม่น่ะไม่ค่อยปรึกษาหรอก เพราะวัยรุ่นหรือวัยดึกดื่นแค่ไหนก็ตาม ไม่อยากให้ผู้ใหญ่มาจุ้น... เอ้ย มาเกี่ยวกับเรื่องนี้นี่หว่า) พอปรึกษาใครต่อใครแล้ว ก็ยังเก็บไปคิดอีกนะว่า มีความเป็นไปได้มะที่ทั้งคุณและเค้าจะเป็นแฟนกัน? คิดเสร็จเผลอๆเอาไปให้หมอดูดูซ้ำอีกชั้น ว่าดวงของคุณกับคนที่ปิ๊งด้วยนั้นคู่ควรกันแค่ไหน? หากได้ยินสิ่งที่ถูกใจก็แฮปปี้ แต่หากไม่ถูกใจ ดังนั้น ไม่ว่าคุณพี่หรือคุณน้องก็จะตระเวนไปหาหมอดูอยู่เรื่อยๆ จนกว่าหมอดูบอกว่าใช่ค่อยหายหงุมหงิม และ ถ้าแค่นี้ยังไม่ละเอียดพอ มีถึงขั้นทำเป็นตารางเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของเค้า เพื่อนำไปเทียบเคียงกับคนอื่นๆที่ติดเบ็ดมาชอบคุณอีก 2-3 คนด้วยสิ นี่ยังไม่นับช่วงเวลาที่คบกันเพื่อเรียนรู้ตัวตนของแต่ละฝ่ายอีกเป็นปี เอ้า ขืนรีบร้อนเกินไปแล้วเกิดไม่ได้ “แฟนอย่างใจ” ขึ้นมาทำไงล่ะ
อื้อ หือ ช่างรอบคอบในการเลือกคู่ซะจริง จริ๊ง มิน่าถึงได้เป็นโสดจนถึงบัดนี้ ฮิฮิฮิ แต่ โอ๋ โอ๋ อาการช่างเลือกไม่ทำให้คุณเป็นโสดโดดเดี่ยวเอกาตลอดไปหรอก ก็มั่นใจไว้สิว่า คุณย่อมได้พบกับ “คนดีที่หนึ่งเลย” สักวันแน่ๆ อ่ะกว่าจะเจอคู่แท้ก็ต้องใช้เวลางี้แหละ ดังนั้น จึงขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังมองหา “คนมารัก” ด้วยนะฮ้า แต่ควรเป็นรักชนิดจริงใจนะ ขืนเป็นรักปลอมๆก็ไปไกลๆเถอะ
ไอ้เรื่องรักปลอมๆ และแกล้งมารักน่ะ เป็นสิ่งที่รู้ๆกันว่าไม่มีใครอยากตกเป็นเหยื่อของสิ่งเหล่านี้หรอกจริงมะ ว่าแต่พวกเราน่ะ มีใคร “ใจง่าย” มั่งมะ ยกมือขึ้น? แหมพอยกประเด็นนี้มาพูดกลับเก็บไม้เก็บมือกันใหญ่เลย เพราะอาการใจง่ายนี่ก็แสบสันใช่ย่อย
บาง ทีพวกนี้ (ก็จะพวกไหนซะอีกล่ะ ถ้าไม่ใช่ พวกใจง่าย) ไปทำให้ใครเกิดหลงใหลจนติดหนึบแล้ว แต่วันดีคืนร้ายเกิดเบื่อขึ้นมา พวกนี้ก็ผลักไสไล่ส่งฝ่ายที่มาหลงเสน่ห์อย่างไม่มีเหตุผลซะงั้น ทำเอาฝ่ายที่ถูกสะบั้นรักถึงกับงงเต็กกับพฤติกรรมสวรรค์เบี่ยงจนตั้งตัวไม่ ทัน จึงอกหัก, อกเดาะ และเสียการทรงตัวของหัวใจ ไปก็มี เฮ้อ...น่ากระตื้บพวกใจง่าย, โลเล และไม่คิดจะมีรักเดียวซะจริงๆ
งั้นมาสังเกตลีลาของพวกใจง่ายกัน ว่า มีพฤติกาม....เอ้ย พฤติกรรมแบบไหนกันน้อ? เช่น
1.เจอใครตรงสเปกปุ๊บ ก็ชอบปั๊บ โห ไม่เก็บอาการหรืออิดออดเลยนะยะ
บาง ทียังไม่ทันรู้จักชื่อแค่เคยเห็นหน้าเท่านั้น “คนใจง่ายและด่วนได้” ก็สนใจเค้าซะแล้ว และถ้ายังไม่รู้จักมักจี่กันละก็ พวกนี้จะพยายามหาทางเข้าไปทำความรู้จักคนที่เค้าชอบรายนี้ทันที เชอะ จะปล่อยให้รอดเรอะ ซึ่งหากฝ่ายที่เค้าชอบเป็นพวก “ไก่อ่อน” ไม่ค่อยได้เจอะเจอการถูกจิก...อุ...ถูกจีบแบบประเจิด
ประเจ้อ อาจหลวมตัวติดกับไปด้วย เพราะไม่เคยเจอใครมากะลิ้มกะเหลี่ยและเซ้าซี้ตอแยมาก่อนนี่หว่า พอถูกกระแซะมากๆก็ผวาสู้กับเกมชะลาลา ลาล่า ทู้กทีสิน่ะ ว้าว! เข้าล็อกเป๊ะ
2.ใจร้อนวิ่งเข้าหาเพศตรงข้าม เอ๊ะหรือเพศเดียวกันฮั่นแน่! ระวังฝ่ายโน้นผวานึกว่าจะถูกจับกินนะ
ข้อ นี้ไม่คล้ายข้อแรกกิ้วๆ เพราะพวกนี้ไม่เกี่ยงว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบ ขอให้เป็นเพศตรงข้าม หรือไม้ป่าเดียวกันก็ปรี่เข้าไปจับไม้จับมือและแต๊ะอั๋งตุนไว้ก่อนแล้ว ทำเหมือนกับหิวกระหายผู้ชาย อย่างกะไม่เคยเจอผู้ชายมาก่อน แถมพวกนี้ไม่รู้จักอายฟ้าอายนรกซะด้วยนะ แม้บางทีเหมือนทำเป็นพูดเล่นหรือทำเล่นๆ แต่ก็ส่อว่าจิตใต้สำนึกของพวกนี้แล้วว่าคิดอะไรอยู่ใช่ไหมล่ะ การพูดเล่นๆชนิดสองแง่สามง่ามก็สนุกดีหรอก แถมทำให้คนรอบข้างครึกครื้นเฮฮาอีกด้วย แต่ขืนพูดถี่ๆ, หรือพูดเล่นอะไรทีก็หนีเรื่อง “อยากแอ้มและอยากให้เค้าแอ้ม” ไม่พ้น อู้ย คงอดอยากปากแห้งมากเลยดิ่ งั้นขออาสาสมัครช่วยทำให้หายหงุดหงิดหงุมหงิมหน่อยเดะ อ่ะ แต่จะมีใครเล่นด้วยรึเปล่าเซ่
หาก ฝ่ายที่ถูกลวนลามทางสายตา และทางวาจาไม่ให้แอ้ม และไม่อยากแอ้มซะอย่าง พวกใจง่ายจะหน้าแหกไปเองแหละ เพราะไม่จำเป็นต้องกระโจนไปเล่นเกมเปลือยใจด้วยนี่หว่า
3.ยั่วยวนตลอดเวลาเพราะอยากมีเพศสัมพันธ์ด่วนจี๋
พวก ใจง่ายมักแสดงท่าทางเซ็กซี่เพราะอยากมีเซ็กซ์จานร้อน ด้วยการใส่เสื้อรัดติ้วเหมือนนมจะหลุดจากเต้างี้, ชอบเดินยกบั้นท้ายให้เด้งดึ๋งเป็นจุดขายและโชว์เรียวขากลมกลึงให้ใครๆอยาก ซุกไซร้ รวมทั้งแต่งหน้าสุดสยิวให้ใครเห็นเป็นต้องเหลียวกลับมามองหลายๆครั้ง....ขอ ให้มีเหอะเพี้ยง! ทันใดนั้นก็เย้ายวนพวกไร้เดียงสาเพื่อชวนไปกระหน่ำรักกันให้ระทึกปากคองี้ สั่นไปเลย ก็อยากเมกเลิฟเสิร์ฟเรือนร่างนักนี่ แต่ควร รู้จักป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์มั่งนะตัว ขืนรักสนุกจนทำเป็นเอ๋อไม่สนใจป้องกันอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวก็สุขสมได้ไม่นานร้อก จะเดี้ยงซะก่อนน่ะซี
4.ชอบตระเวนไปงานต่างๆ เผื่อเจอเหยื่อก็ตรงกับความตั้งใจพอดีเชียว
ถ้า มีใครในงานนั้นชวนไปดริ๊งก์ต่อกันที่อื่นละก็ โอ้ย พวกนี้จะรีบโดดขึ้นรถแล้วออเซาะเค้าว่า “อยากพาไปไหนก็ได้ วันนี้ชั้นว่างอยู่แล้ว” โห....แสดงว่าแรงควบคุมอาการใจแตกแหกกฎไม่มีเอาซะเลยนะยะ จึง กล้าไปไหนมาไหนกับคนแปลกหน้าโดยไม่สนว่า จะถูกหลอกไปปู้ยี่ปู้ยำรุนแรงแถมโดนรุมทึ้งขนาดไหน เอ๊ะ หรือเหยื่อที่หลงกลจะถูกปู้ยี่ปู้ยำซะมากกว่ามั้ง? เพราะพวกนี้ไม่สนอยู่แล้วนี่ว่า ผลที่ตามมาจะดีหรือร้าย ถ้าดีก็แล้วไป แต่หากมีปัญหา ค่อยลุยแก้ไขกันวันหลังก็มีนะ
หาก “พวกใจง่ายด่วนได้” ไม่ไปทำให้ ความรู้สึกของคนอื่นต้องน้ำตาตกทีหลังเพราะถูกสลัดรักอย่างรวดเร็ว ก็แล้วแต่ความบ้าบิ่นของเอ็งเถอะ แต่ถ้าทำให้คนอื่นใจสลายน้อยใจบ่อยๆ คงต้องจับมาทำโทษกันซะมั่ง ดีไหม

- ความหึง

หึง (และรับมือกับความหึง) อย่างไรให้ชีวิตรักไปโลด


          ความหึงหรือการถูกหึงอาจทำให้ชีวิตรักปั่นป่วน และสร้างความเจ็บปวด แต่ความหึงก็อาจช่วยรักษาชีวิตคู่ของคุณไว้ได้ เพียงแค่ต้องรับมือกับมันให้ดี ๆ
         
เรา ทุกคนที่มีคู่รักต่างต้องเคยรู้สึกถึงความหึงหรือถูกหึงกันมาแล้วทั้งนั้น ด้วยเหตุผลที่อาจแตกต่างกันไป และผลที่ได้รับก็อาจแตกต่างกันไปด้วย ถ้าคุณรับมือกับความหึงได้ มาทำความรู้จักกับกลไกของความหึง รวมทั้งวิธีรับมือกับมัน ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายขี้หึงหรืออยู่กับแฟนขี้หึงก็ตาม
ความซับซ้อนของความหึง


          ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาอธิบายว่า ความหึงเป็นปฏิกิริยาเกิดขึ้นต่อสิ่งซึ่งเขาหรือเธอเห็นเป็นการคุกคามต่อ สัมพันธภาพ ความหึงต่างจากความอิจฉาตรงที่ความหึงมีความกลัวที่จะสูญเสีย และมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ความหึงยังมีอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อน เช่น เจ็บปวด โกรธ เศร้า อิจฉา กลัว เสียใจ เสียหน้า การกล่าวโทษ การเปรียบเทียบกับคู่แข่งและความสงสารตัวเอง

         
คำ อธิบายต่อสาเหตุของความหึงนั้น แตกต่างกันไป เช่น นักจิตวิทยาใน แนวฟรอยด์บอกว่า มักเกิดมาจากความเจ็บปวดจากากรถูกปฏิเสธในวัยเด็ก เมื่อเรารู้สึกว่าเราไม่ใช่ลูกรักของพ่อหรือแม่ ความรู้สึกเช่นนี้นำไปสู่ความรู้สึกไม่มั่นคงและความหึงโดยไม่รู้ตัว ส่วนนักชีววิทยาสังคมอย่างเช่น ชาณ์ลส์ ดาร์วิน ก็เชื่อว่า ความหึงเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด มันเป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดในเชิงพันธุกรรม นั่นก็คือผู้ชายอยากได้คู่ที่เป็นของตนคนเดียว เพื่อจะได้ส่งต่อพันธุกรรมของตัวเอง ส่วนผู้หญิงก็อยากได้คู่ที่มีความจงรักภักดี เพื่อจะได้ช่วยดูแลลูก ๆ ให้อยู่รอด เป็นต้น
          แต่คำอธิบายพื้นฐานะที่สุดของความหึงก็คือ ความหึงเกิดจากความรู้สึกไม่มั่นคง โดยเฉพาะถ้าคุณต้องพึ่งพิงคู่รักของตัวเองค่อยข้างมาก คุณก็มีแนวโน้มที่จะหึงได้ง่าย แต่ผู้ชายมักจะปฏิเสธความหึง ขณะที่ผู้หญิงพร้อมจะยอมรับมันมากกว่า แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ สำหรับคนที่เคยนอกใจคู่รักมาก่อนคนอื่นอาจคาดว่าเราจะหึงน้อยกว่า ถ้าคู่รักของเราเกิดมีกิ๊กขึ้นมา แต่การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่า คู่ที่เคยไม่ซื่อสัตย์บางคนกลับขี้หึงมากกว่า
ความหึงก็มีข้อดี
          ในชีวิตคู่ซึ่งเกิดความหึงหวงขึ้นเล็กน้อย และเป็นครั้งคราว มันเตือนให้คู่รักไม่ละเลยกัน และอาจทำให้ทั้งคู่หันมาใส่ใจกันมากขึ้น ความหึงทำให้อารมณ์รุนแรงจึงอาจทำให้การเมกเลิฟซาบซ่านยิ่งขึ้น ดังนั้น ความหึงในระดับที่พอรับมือได้ อาจกลายเป็นแรงผลักดันในทางที่ดีของความรัก แต่ความหึงที่มากเกินไปนั้นต่างกัน อย่างเช่น ผู้ชายซึ่งทำเรื่องน่าขายหน้าในงานปาร์ตี้ เพราะภรรยาไปเต้นรำกับเพื่อเก่า หรือผู้หญิงที่หน้ามืดด้วยความหึง เพราะสามีมีเจ้านายใหม่เป็นผู้หญิง ปฏิกิริยาเหล่านี้อาจทำให้ชีวิตคู่ตึงเครียดอย่างหนักและทำให้อีกฝ่ายรู้สึก ราวกับว่ากำลังเดินอยู่บนพื้นที่อันเปราะบาง

          ฝ่าย ถูกหึงต้องคอยหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความหึงหวงขึ้นมาอยู่เรื่อย ๆ ส่วนคนที่หึงก็มักจะรู้ตัวดีถึงปัญหาของตัวเอง จึงมีอารมณ์แปรปรวนอยู่ตลอด ทั้งการตำหนิตัวเองและการแก้ตัวให้ตัวเอง

ถ้าคุณคือคนขี้หึง

          การเอาชนะความหึงต้องใช้ความอดทน และความพยายามอย่างหนัก ถ้าคุณรู้สึกว่าความหึงของคุณมีรากเหง้ามาจากวัยเด็ก คุณอาจต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ถ้าคุณเพิ่งถูกนอกใจมา คุณจำเป็นต้องรับมือกับเรื่องนั้นก่อน และนี่คือสิ่งที่คุณสามารถทำได้กับตัวเอง

          มองความจริง
มองสิ่งต่าง ๆ ที่มา กระตุ้นให้เกิดความหึง และถามตัวเองว่า การคุกคามที่รู้สึกนั้นเป็นจริงแค่ไหน มีหลักฐานอะไรที่ว่าชีวิตรักของคุณกำลังอยู่ในอันตราย และพฤติกรรมของคุณกำลังทำให้สถานการณ์แย่ลงหรือเปล่า?

          พูดสิ่งดี ๆ กับตัวเอง เมื่อคุณเริ่มรู้สึกถึงความหึง ต้องเตือนตัวเองว่าคู่ของคุณรักคุณ ผูกพันกับคุณ และนับถือคุณบอกตัวเองว่าคุณเป็นคนน่ารัก และไม่มีอะไรเกิดขึ้น

          หาความมั่นใจ หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะความหึงก็คือ ถามคู่ของคุณให้มั่นใจ (โดยต้องแน่ใจว่าคุณไม่ได้บ่นหรือขู่เขา) โดยบอกเล่าความไม่มั่นใจของคุณให้เขาฟัง และขอให้เขาช่วยคุณเอาชนะปัญหานั้น

การอยู่กับแฟนขี้หึง

          การมีแฟนขี้หึงเป็นเรื่องน่าเหนื่อยใจ นี่คือบางวิธีที่อาจช่วยบรรเทาความหึงของเขาลงได้

         
มองปัญหาในแง่ดี จำไว้ว่า ความหึง คือสัญญาณของความรัก ถ้าแฟนของคุณไม่ให้ความสำคัญกับชีวิตรักของคุณ คุณก็จะไม่มีปัญหานี้ แทนที่จะป้องกันตัวเอง พยายามเข้าใจและเป็นกำลังใจให้เขาดีกว่า

 ตรวจสอบพฤติกรรมของตัวเอง ถ้าคุณรู้ว่ามีพฤติกรรมบางอย่างที่กระตุ้นความหึงของเขา เปลี่ยนมันซะ ถ้าคุณทำได้ จนกว่าปัญหานี้จะถูกแก้ไขไป จงให้แน่ใจว่าได้ยึดในข้อตกลงใด ๆ ก็ตามที่มีต่อกันอย่างเคร่งครัดด้วย แต่หลีกเลี่ยงที่จะสัญญาอะไรที่คุณคิดว่ารักษาได้ยาก อย่างเช่น การให้เขา ติดต่อได้ตลอดเวลา เป็นต้น

  สร้างความมั่นใจให้เขา ใช้โอกาสทุกครั้งที่มีบอกคู่รักว่า คุณรักเขามากแค่ไหน และทำไมคุณถึงไม่อยากจะอยู่กับคนอื่น ให้คำชมเขาเยอะ ๆ และพูดถึงอนาคตที่สุดวิเศษของคุณสองคนและบอกเขาว่า คุณอยากให้มันมาถึงมากเพียงใด