หลายท่านมีความเข้าใจว่า “ดื่มน้ำได้พอเพียงแล้ว” ร่างกายก็น่าจะดี แต่ทำไมยังเจ็บป่วย ตัวร้อน ขาดน้ำอีก แล้วน้ำที่ดื่มเข้าไปมันไปไหนหมด ถึงขาดน้ำได้
** ยกตัวอย่างคนที่น้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม เมื่อคำนวณปริมาณน้ำที่ควรดื่มแล้ว ควรดื่มน้ำ 2 ลิตรต่อวัน ซึ่งเท่ากับ 10 แก้ว แต่ 10 แก้วที่ว่านี้ไม่ใช่ดื่มทีเดียวหมด ควรแบ่งดื่มทั้งวัน
โดยตอนเช้าดื่มก่อนแปรงฟันได้ก็ดี ดื่มสัก 2-5 แก้วเพื่อเป็นการชำระของเสียออกจากร่างกาย โดยการเอาอุจจาระ ปัสสาวะออก
เหตุที่ให้ดื่มน้ำก่อนแปรงฟัน นั้นก็เพื่อให้การดื่มน้ำเว้นระยะเวลาจากการทานอาหารเช้าให้มากๆ จะทำให้อาหารได้ย่อยเสียก่อน จะได้อุจจาระหรือปัสสาวะก่อนที่จะออกไปทำงาน ถ้าไม่รีบๆดื่มน้ำเสียก่อน เดี๋ยวก็ต้องแวะถ่ายกลางทาง คงไม่สนุกแน่ถ้าเป็นเช่นนั้น ยิ่งถ้าใครอั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้ยิ่งแย่ไปกันใหญ่
ถ้าเราแปรงฟันก่อนดื่มน้ำ ก็อาจจะเลยเถิดทำธุระอย่างอื่น อาบน้ำอาบท่า แต่งตัวเตรียมไปทำงานแล้ว จนอาจจะลืมดื่มน้ำ ทีนี้จะดื่มมากๆไม่ได้แล้ว ก็จะไม่มีน้ำที่จะขับของเสียออกจากร่างกาย ของเสียก็ถูกดูดซืมเข้าไปใหม่
น้ำส่วนที่เหลือ ก็ทยอยดื่มบ่อยๆ ครั้งละ 2-3 อึกหรือไม่เกินครึ่งแก้วต่อครั้ง อย่ารอให้หิวแล้วค่อยดื่ม และอย่าดื่มครั้งละมากๆ เป็นแก้วหรือเป็นขวด เพราะน้ำจะไหลลงอย่างรวดเร็ว ลำไส้ดูดซึมไม่ทัน แถมไตยังต้องทำงานหนักในการขับน้ำออกเป็นปัสสาวะ ถ้าไตทำงานหนักก็อาจจะเสื่อมได้ แถมจะทำให้ร่างกายขาดน้ำอีก
15 นาทีก่อนรับประทานอาหาร ระหว่างรับประทานอาหาร หลังรับประทานอาหารหรืออิ่มใหม่ๆ อย่าดื่มน้ำมากนัก ควรดื่มไม่เกิน 1 แก้ว เพื่อมิให้น้ำนั้นเข้าไปดับ “ไฟสำหรับย่อยอาหาร” ที่อยู่ในกระเพาะ ทานเสร็จแล้ว 40 นาที จึงค่อยดื่มน้ำต่อไป และน้ำที่ดื่มก็ไม่ควรดื่มน้ำเย็น
ผู้ป่วยมากมายที่ป่วยเพราะดื่มน้ำมากช่วงรับ ประทานอาหาร อาหารก็ไม่ย่อย น้ำหนักก็เพิ่ม อึดอัด แน่นท้อง เรอ ปวดศีรษะ ไมเกรน และอีกมากมายหลายโรคที่เป็นสาเหตุมาจากอาหารไม่ย่อย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะคาดไม่ถึงว่า “การดื่มน้ำมากๆ ช่วงรับประทานอาหารจะทำให้เขาป่วยได้” เหมือนเส้นผมบังภูเขา เป็นเรื่องธรรมชาติที่เรามองข้ามกันไป
*** และมีหลายท่านถามว่า “ดื่มน้ำต้มสุกดีไหม” น้ำต้มสุกเป็นน้ำที่ตายแล้ว แร่ธาตุก็พากันตกตะกอนหมด เลี้ยงปลา ปลาก็ตาย เพราะขาดสารอาหาร ** ดื่มน้ำที่กรองแล้วก็พอ ** หรือถ้าให้ดีขึ้นดื่มน้ำอุ่นก็จะดีมาก เพราะอุณหภูมิจะใกล้เคียงกับอุณหภูมิของร่างกายคนเรา ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำได้ดี
***ช่วงก่อนนอน เป็นอีกช่วงที่ไม่ควรดื่มน้ำมากนัก เพราะเวลานี้ไตต้องการพักผ่อน ให้เขาได้พักผ่อนบ้าง การดื่มน้ำก่อนนอนมากๆ แล้วต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะกลางดึกนั้นคงไม่ถูกต้องแน่ ไม่ต้องหลับต้องนอนกันพอดี ดื่มน้ำพอประมาณเพื่อไม่ให้เราต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะ
หลายท่านดื่มน้ำปริมาณพอเพียง แต่ดื่มตอนเช้า 5 แก้ว เย็น 5 แก้ว รวมแล้ว 2 ลิตรพอดี บอกว่า “ไม่ค่อยมีเวลาดื่มน้ำ เลยดื่มทีเดียวให้หมดภาระไปเลย จะได้ไม่เสียเวลาทำมาหากิน”
ผลก็คือท่านนั้น เลือดข้นหนืด เข้าไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นไม่ได้จึงมีอาการกล้ามเนื้อแข็งตึงไปหมด ก้าวขาแทบจะไม่ออก หลังเหมือนแผ่นกระดาน กดนวดไม่ลง หมอนวดเจอแล้วแทบวิ่งหนี (ถ้าหนีได้) นวดท่านนี้ท่านเดียวก็หมดแรงแล้ว กดเท่าไรก็เข้าไม่ถึงเส้น สุดท้ายกลายเป็นหมอนวดเดี้ยงเสียเอง อย่าทรมาณหมอนวดอย่างนี้เลยนะ
ประโยชน์จากการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
“ดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ”
ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ถึง 75% ของน้ำหนักตัว เราอาจจะอดอาหารได้เป็นเดือน ๆ แต่ร่างกายไม่สามารถขาดน้ำได้เกินกว่า 3 -7 วัน การดื่มน้ำอย่างถูกต้อง จะช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดี หัวใจทำงานปกติ และมีประสิทธิภาพแข็งแรงขึ้น ขณะเดียวกันการขับถ่ายของเสียก็ทำงานได้ดี ที่สำคัญยังช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื่น มีเลือดฝาด และไม่ปวดหลังหรือบั้นเอว เพราะสุขภาพไตแข็งแรง
การดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว จะช่วยทำให้ปริมาณไขมันในร่างกายลดลง อาจเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่น้ำจะเป็นสิ่งสำคัญที่มีส่วนช่วยในการดูแลรูปลักษณ์ แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะต้องดื่มน้ำเพราะความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงน้ำเป็น "อาหารอันวิเศษ " ที่ช่วยในการดูแลรูปลักษณ์อย่างถาวร
ต้องดื่มน้ำเพื่อให้ไตทำงาน
ไตไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหากเราดื่มน้ำไม่เพียงพอ เมื่อไตไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ตับก็จะเป็นตัวที่ต้องทำงานหนักขึ้น หน้าที่หลักของตับก็คือ ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกายให้เกิดเป็นพลังงาน แต่ตับต้องมาทำหน้าที่ของไต ทำให้มันไม่สามารถทำหน้าที่หลักได้อย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันได้น้อยลง และยิ่งเพิ่มการสะสมไขมันในร่างกายมากขึ้น และทำให้การดูแลรูปลักษณ์หยุดชะงักลง
กักน้ำด้วยน้ำ
การดื่มน้ำอย่างเพียงพอเป็นการรักษาของเหลวไว้ได้ดีที่สุด เมื่อร่างกายได้รับน้ำน้อยมันจะรับรู้ว่าจะต้องรักษาความอยู่รอดไว้โดยจะต้องรักษาน้ำไว้ทุกหยด ร่างกายจะกักเก็บน้ำไว้ในที่ว่างพิเศษในโพรงเล็กๆ (ภายนอกเซลล์) ซึ่งจะเห็น
ได้จากอาการบวมที่เท้า มือ และขา การขับปัสสาวะจะช่วยให้ดีขึ้นชั่วคราว และจะบังคับให้ร่างกายเกิดความรู้สึกว่าจะต้องมีน้ำเข้ามากักเก็บไว้พร้อมกับความต้องการสารอาหารที่สำคัญบางชนิด เมื่อร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ อาการที่เกิดขึ้นก็จะหายเป็นปกติ วิธีที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาการขาดน้ำในร่างกายก็คือ เราจะต้องดื่มน้ำในปริมาณมากเพื่อที่ร่างกายจะมีน้ำไว้ใช้ยามขาดแคลน หากคุณมีปัญหาร่างกายขาดน้ำ อาจมาจากสาเหตุที่ร่างกายได้รับปริมาณเกลือมากเกินไป ร่างกายของเราจะสามารถรับปริมาณโซเดียมได้จำนวนหนึ่งเท่านั้น แต่การกำจัดปริมาณเกลือที่ทานเข้าไปเกินความต้องการนั้นสามารถทำได้ง่าย เพียงแต่ดื่มน้ำให้มากขึ้น เพราะน้ำจะช่วยให้ไตขับโซเดียมออกมา คนที่มีน้ำหนักมากร่างกายต้องการน้ำมากกว่าคนผอม คนตัวใหญ่จะมีการเผาผลาญที่มากกว่า น้ำจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีน้ำหนักมาก เพราะน้ำเป็นตัวสำคัญที่ช่วยในการเผาผลาญไขมัน น้ำยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อของเรามีความชุ่มชื้น และยังทำให้ผิวหนังไม่เหี่ยวย่นหลังจากการดูแลรูปลักษณ์ เซลล์ขนาดเล็กสามารถลอยตัวอยู่ได้ด้วยน้ำ ทำให้ผิวหนังดูเปล่งปลั่งและสดใส ชุ่มชื้น นอกจากนั้นน้ำยังช่วยกำจัดของเสียระหว่างการดูแลรูปลักษณ์ร่างกาย จะมีของเสีย โดยเฉพาะไขมันที่จะต้องกำจัดออก ซึ่งถ้าหากร่างกายมีน้ำเพียงพอก็จะสามารถกำจัดของเสียเหล่านี้ออกมาได้มาก
น้ำช่วยบรรเทาอาการท้องผูก
น้ำสามารถช่วยไม่ให้ท้องผูก หากร่างกายได้รับน้ำน้อย ทำให้ขับถ่ายลำบาก ซึ่งทำให้เกิดท้องผูก แต่สามารถช่วยให้หายได้ โดยการดื่มน้ำให้เพียงพอ
ได้มีการค้นพบว่าน้ำมีส่วนช่วยในการดูแลรูปลักษณ์ ร่างกายไม่สามารถทำหน้าที่ได้โดยสมบูรณ์หากได้รับน้ำไม่เพียงพอ โดยเฉพาะการเผาผลาญไขมันที่สะสม หากร่างกายเก็บน้ำไว้มากจะดูได้จากการที่มีน้ำหนักเกิน แต่แก้ไขได้โดยการดื่มน้ำเพิ่มขึ้น การดื่มน้ำมากขึ้นจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยในการดูแลรูปลักษณ์ ดื่มน้ำเท่าไหร่จึงจะพอ? โดยเฉพาะควรดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีน้ำหนักเกินควรดื่มน้ำเพิ่มมากขึ้นอีก และจะต้องเพิ่มขึ้นอีกหากคนๆ นั้นชอบออกกำลังกายหรืออยู่ในที่ ๆ มีอากาศร้อนหรือแห้ง น้ำเย็นจะถูกดูดซึมในร่างกายได้เร็วกว่าน้ำอุ่น บางหลักฐานแนะนำว่าการดื่มน้ำเย็นจะช่วยเผาผลาญแคลลอรี่ ดื่มน้ำบำบัดโรค ช่วยอายุยืน
รายงานทางการแพทย์ระบุว่า การดื่มน้ำมากๆจะทำให้อายุยืน พร้อมสำรวจอาการร่างกายขาดน้ำ ยิ่งถ้าพบว่าผิวหนังแห้ง ไม่ชุ่มชื้น ตาแห้ง มีกลิ่นปาก ท้องผูก เป็นริดสีดวงทวาร นั่นแสดงว่าร่างกายของคุณกำลังขาดน้ำอย่างยิ่งเชียว
2. ก่อนอาหารทุกมื้อ มื้อละ 1 แก้ว
3. หลังอาหารทุกมื้อ มื้อละ 1 แก้ว
4. ในเวลา 10.00, 14.00, 16.00 เวลาละ 1 แก้ว
5. ก่อนนอนดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว รวม 14 แก้ว
หลักการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด สามารถทำง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยน้ำที่เหมาะแก่การดื่มคือ น้ำอุณหภูมิปกติไม่ร้อนหรือเย็นจัดจนเกินไป ถ้าเป็นน้ำอุ่นควรดื่มตอนเช้าเพื่อช่วยล้างลำไส้ให้สะอาด และช่วยการขับถ่ายของเสีย
เทคนิคในการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ ทางการแพทย์บอกว่าถ้าดื่มในช่วงพระอาทิตย์ยังไม่พ้นขอบฟ้าต้องดื่มน้ำอุ่น....แต่ถ้าพระอาทิตย์พ้นขอบฟ้าแล้วให้ดื่มน้ำเย็น เพื่อเป็นการกลับคืนสู่ธรรมชาติที่มนุษย์ทุกคนหลงลืมอิทธิพลของพระอาทิตย์พระจันทร์มานาน ถ้าทำได้ดังที่กล่าวมาประโยชน์จากการดื่มน้ำจะเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณอย่างเห็นได้ชัด
ข้อควรจำ ไม่ควรดื่มน้ำก่อนและหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจางลง ส่งผลให้การย่อยไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ในแต่ละมื้อไม่ควรรับประทานอาหารให้แน่นจนเกินไป ควรทานแค่อิ่มพอดี แล้วรับประทานผลไม้สดเพื่อล้างคอก่อนจะจิบน้ำตามนิดหน่อยรับรองสบายท้อง ส่วนการรับประทานอาหารพร้อมกับดื่มน้ำตลอดเวลาเป็นนิสัยที่ควรเลิก ทางที่ดีควรซดน้ำแกงกลั้วคอจะดีกว่า
ที่มาของข้อมูล การดื่มน้ำมากเกิน...ระวังน้ำเป็นพิษ
เคยเชื่อว่ากินน้ำเยอะช่วยให้สุขภาพดี แต่หากดื่มน้ำมากเกินกว่าร่างกายต้องการอาจจะได้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม
ผู้ เชี่ยวชาญทางการแพทย์ยอมรับว่าดื่มน้ำมากกว่าปกติเล็กน้อยช่วยให้มีสุขภาพดี แต่ระยะหลังกระแสนิยมใช้น้ำล้างพิษเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะสูตรที่แนะให้ดื่มน้ำหลายลิตรต่อวัน และดื่มต่อเนื่อง แม้จะไม่มีอาการกระหายน้ำ โดยอ้างว่าดื่มน้ำมากช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ชะล้างสารเคมี หรือสิ่งที่เป็นพิษออกจากร่างกาย
อย่าง ไรก็ตาม สมาคมโภชนาการแห่งอังกฤษแจงว่า ปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการแต่ละวัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน รวมถึงปัจจัยอื่น ไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิอากาศ การออกกำลังกาย เป็นต้น
เออร์ ซูลา อาเรนส์ นักโภชนาการระบุว่า ร่างกายต้องการน้ำ 1-2 ลิตรต่อวัน น้ำที่ได้รับอาจไม่ได้อยู่ในรูปของน้ำเปล่า แต่รวมถึงชา กาแฟ น้ำผลไม้ อาหารต่างๆ ที่มีน้ำผสมอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ ขนม
"ศาสตราจารย์ เกรแฮมแนะว่า อย่าดื่มน้ำมากเกินกว่าร่างกายต้องการ เพราะหากคุณเป็นนักกีฬาชื่อดัง ทำรายได้เป็นแสนต่อการแข่งกีฬา 1 เกม ก็พอเข้าใจได้ว่า ร่างกายต้องการน้ำมากพอกับที่สูญเสียไป แต่หากคุณเป็นแค่คนที่ว่ายน้ำเป็นงานอดิเรก มันไม่จำเป็นเลยกับน้ำมากมาย" นักโภชนาการเมืองผู้ดีกล่าว
เออร์ซูลา ยังกล่าวด้วยว่า ในทางวิทยาศาสตร์ยังไม่มีหลักฐานยืนยันประโยชน์ของการล้างพิษด้วยน้ำ เนื่องจากร่างกายมีกระบวนการกำจัดของเสียที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้วคือ ตับ จึงเป็นเรื่องรู้ได้ยากว่า การดื่มน้ำมากเกินไปส่งผลต่อกระบวนการขับของเสียของร่างกายหรือไม่ และอย่างไร
"ร่างกายมนุษย์มี ระบบกำจัดของเสียที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว แต่กรณีที่ระดับน้ำในเลือดเพิ่มสูงมากเกินไป ระบบกำจัดของเสียไม่สามารถรับมือได้ ทั้งนี้หากดื่มน้ำในปริมาณมาก เกลือในเลือดก็จะลดต่ำ ส่งผลให้น้ำท่วมเข้าสู่สารละลายในเซลล์และอวัยวะอื่นๆ ได้ เช่น ทำให้สมองบวมจนไม่สามารถทำงานได้" ศาสตราจารย์เกรแฮม แมคเกรเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญระบบไต อธิบายและเล่าว่า เคยมีคนดื่มเบียร์ 10 ลิตร แล้วต้องเข้าโรงพยาบาลจากภาวะ "น้ำเป็นพิษ"
ศาสตราจารย์ เกรแฮมย้ำว่า คนควรดื่มน้ำตามที่ร่างกายต้องการ ร่างกายจะบอกให้ทราบด้วยอาการกระหาย การดื่มน้ำปริมาณมากกว่านั้นไม่จำเป็น นอกจากจะเป็นสาเหตุให้คุณต้องไปต่อคิวหน้าห้องสุขา เช่นเดียวกับการดีท็อกซ์ด้วยน้ำ