อาหารและสมุนไพรรักษาหวัด
ฟ้าทะลายโจร ในหลายคนรู้จักกันดีเพราะให้รสชาติที่ขมมาก แต่มันช่วยในการรักษาหวัดได้ดีเลยทีเดียว ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเราได้เป็นอย่างดี อาการร้อนในหรือว่าเป็นไข้อยู่นั้นก็จะช่วยรักษาให้เราเย็นขึ้น เป็นการลดไข้
สรรพคุณ
ใช้ทานเป็นยาขมเจริญอาหาร และใช้บรรเทาอาการ “หวัดร้อน” ที่มีอาการเหงื่อออก เจ็บคอ กระหายน้ำ ท้องผูก แต่ฟ้าทะลายโจรไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการของ “หวัดเย็น” คือไม่มีเหงื่อ มือเท้าเย็น ปัสสาวะมาก รู้สึกหนาวสะท้าน ยิ่งถ้าทานฟ้าทะลายโจรเข้าไป จะทำให้ยิ่งหนาวสั่น คลื่นไส้ และไม่ควรทาน ฟ้าทะลายโจร เพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ติดต่อกันเกิน 1 สัปดาห์ เนื่องจากอาจส่งผลให้ร่างกายโดยเฉพาะ แขนขาไม่มีเรี่ยวแรง
“สำหรับวิธีการทำน้ำชาจากใบสมุนไพรฟ้าทะลายโจรไว้รับประทานเองนั้นประชาชนสามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ โดยนำใบสดฟ้าทะลายโจรมาล้างน้ำให้สะอาด ก่อนใส่ลงในน้ำต้มเดือดทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ก่อนรับประทาน” นายแพทย์สาธารณสุข กล่าว
************************************************
ขิง เครื่องดื่มของขิงนั้น ช่วยในการลดไข้เป็นอย่างดี ควรที่จะดื่มขณะยังร้อนๆ
เป็นพืชสมุนไพรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านรสและกลิ่น ที่อุดมไปด้วย ชันน้ำมัน (oleoresin) น้ำมันหอมระเหย (volatile oil) รวมทั้ง วิตามิน และแร่ธาตุ อย่าง แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และมีวิตามินซีในระดับสูง โดยเฉพาะขิงที่มีอายุ 11-12 เดือน ซึ่งหาไม่ได้ในขิงช่วงอายุอื่นๆ อีกทั้งขิงยังมีคุณสมบัติที่ช่วยในการขับลม แก้จุกเสียด คลื่นไส้ อาเจียน ทำให้เหงื่อออกมาก แก้หวัด แก้ไข้ สร้างความกระชุ่มกระชวย น้ำขิงร้อนๆ แก้อาการหวัดที่มีอาการหนาว (หวัดเย็น) ไข้ต่ำ ไม่ค่อยมีเหงื่อ มีเสมหะเหลวใส หรือ ขี้มูกใส ซดน้ำขิงจะทำให้จมูกโล่งดี ร่างกายอบอุ่น ช่วยฟื้นฟูระบบการทำงานต่างๆ ให้กลับคืนสู่ภาวะสมดุล ซึ่งเราสามารถบริโภคขิงได้ทุกวันโดยไม่ต้องกลัวผลเสียใดๆ แก่ร่างกาย และยิ่งเดี๋ยวนี้มีเครื่องดื่มน้ำขิงในรูปแบบผงที่หาซื้อได้ง่าย สะดวก ให้คุณดื่มทุกวัน
************************************************
ตำลึง เป็นผักที่เรามารับประทานกันไม่ว่าจะเป็นการรับประทานสดหรือว่าประกอบอาหาร ทำให้ช่วยในการถอนพิษไข้ได้ดีเยี่ยม
ตำลึงผักสวนครัวรั้วกินได้ ที่มากมายด้วยสรรพคุณทั้งเป็นยาป้องกันโรค เป็นอาหาร ทานแล้วมีประโยชน์สูง เพราะอุดมไปด้วยสารอาหาร
สรรพคุณ
ตำลึงอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์สูง เช่น สารเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และหัวใจขาดเลือด มีแคลเซียมช่วยบำรุงกระดูก และฟัน และยังมีฟอสฟอรัส เหล็ก ไนอาซิน วิตามินซีและอื่น ๆ นอกจากนี้ จากการค้นคว้าของสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ตำลึงมีเส้นใยอาหารที่สามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ในกระเพาะอาหาร อีกด้วย สำหรับตำรายาแผนโบราณ ตำลึงถือเป็นยาเย็น ใบช่วยขับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้อาการแพ้ อักเสบ แมลงมีพิษกัดต่อย แก้แสบคัน เจ็บตา ตาแดงและตาแฉะ แก้โรคผิวหนัง และลดน้ำตาลในเลือด
ราก : แก้ดวงตาเป็นฝ้า ลดความอ้วน แก้ไข้ทุกชนิด ดับพิษทั้งปวง ฝนทาภายนอก แก้ฝีต่างๆ แก้ปวดบวม แก้พิษร้อนภายใน แก้พิษแมลงป่องหรือตะขาบต่อย
ต้น : กำจัดกลิ่นตัว น้ำจากต้น รักษาเบาหวาน
เปลือกราก : เป็นยาถ่าย ยาระบาย
เถา : แก้ฝี ทำให้ฝีสุก แก้ปวดตา แก้โรคตา แก้ตาฝ้า ตาแฉะ แก้พิษอักเสบจากลูกตา ดับพิษร้อน ถอนพิษ เป็นยาโรคผิวหนัง แก้เบาหวาน
ใบ : เป็นยาพอกรักษาผิวหนัง รักษามะเร็งเพลิง แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ แก้จุกเสียด แก้หืด รักษาผื่นคันที่เกิดจากพิษของหมามุ้ย ตำแย บุ้งร่าน ใช้เป็นยาเขียว แก้ไข้ ดับพิษร้อน ถอนพิษทั้งปวง แก้ปวดแสบปวดร้อน ถอนพิษคูน แก้คัน แก้แมลงกัดต่อย แก้ไข้หวัด แก้พิษกาฬ แก้เริม แก้งูสวัด
ผล : แก้ฝีแดง
ทั้งห้า รักษาโรคผิวหนัง รักษาอาการอักเสบของหลอดลม รักษาเบาหวาน
Tips
ใช้เป็นรักษาอาการแพ้ อักเสบ แมลงกัดต่อย เช่น ยุงกัด ถูกตัวบุ้ง แพ้ละอองข้าว โดยเอาใบสด 1 กำมือ ล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียดผสมน้ำเล็กแล้วคั้นน้ำจากใบเอามาทาบริเวณที่มีอาการ พอน้ำแห้งแล้วทาซ้ำบ่อยๆจนกว่าจะหาย
สรรพคุณ
ตำลึงอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์สูง เช่น สารเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และหัวใจขาดเลือด มีแคลเซียมช่วยบำรุงกระดูก และฟัน และยังมีฟอสฟอรัส เหล็ก ไนอาซิน วิตามินซีและอื่น ๆ นอกจากนี้ จากการค้นคว้าของสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ตำลึงมีเส้นใยอาหารที่สามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ในกระเพาะอาหาร อีกด้วย สำหรับตำรายาแผนโบราณ ตำลึงถือเป็นยาเย็น ใบช่วยขับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้อาการแพ้ อักเสบ แมลงมีพิษกัดต่อย แก้แสบคัน เจ็บตา ตาแดงและตาแฉะ แก้โรคผิวหนัง และลดน้ำตาลในเลือด
ราก : แก้ดวงตาเป็นฝ้า ลดความอ้วน แก้ไข้ทุกชนิด ดับพิษทั้งปวง ฝนทาภายนอก แก้ฝีต่างๆ แก้ปวดบวม แก้พิษร้อนภายใน แก้พิษแมลงป่องหรือตะขาบต่อย
ต้น : กำจัดกลิ่นตัว น้ำจากต้น รักษาเบาหวาน
เปลือกราก : เป็นยาถ่าย ยาระบาย
เถา : แก้ฝี ทำให้ฝีสุก แก้ปวดตา แก้โรคตา แก้ตาฝ้า ตาแฉะ แก้พิษอักเสบจากลูกตา ดับพิษร้อน ถอนพิษ เป็นยาโรคผิวหนัง แก้เบาหวาน
ใบ : เป็นยาพอกรักษาผิวหนัง รักษามะเร็งเพลิง แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ แก้จุกเสียด แก้หืด รักษาผื่นคันที่เกิดจากพิษของหมามุ้ย ตำแย บุ้งร่าน ใช้เป็นยาเขียว แก้ไข้ ดับพิษร้อน ถอนพิษทั้งปวง แก้ปวดแสบปวดร้อน ถอนพิษคูน แก้คัน แก้แมลงกัดต่อย แก้ไข้หวัด แก้พิษกาฬ แก้เริม แก้งูสวัด
ผล : แก้ฝีแดง
ทั้งห้า รักษาโรคผิวหนัง รักษาอาการอักเสบของหลอดลม รักษาเบาหวาน
Tips
ใช้เป็นรักษาอาการแพ้ อักเสบ แมลงกัดต่อย เช่น ยุงกัด ถูกตัวบุ้ง แพ้ละอองข้าว โดยเอาใบสด 1 กำมือ ล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียดผสมน้ำเล็กแล้วคั้นน้ำจากใบเอามาทาบริเวณที่มีอาการ พอน้ำแห้งแล้วทาซ้ำบ่อยๆจนกว่าจะหาย
************************************************
หอมแดง เป็นการช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกของเรา สามารถใช้ดูดดมทำให้ดีขึ้น
************************************************
พริก ช่วยในการขับเสมหะของเรา ทำให้ระบบทางเดินหายใจเราสะดวกขึ้น
************************************************
ส้ม มีวิตามินซีสูง ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงต่อต้านหวัด และเป็นการเพิ่มน้ำในร่างกาย
************************************************
กระเทียม
สรรพคุณ
เป็นทั้งสมุนไพร เครื่องเทศ และมีสรรพคุณทางยามากมาย หัวกระเทียมมีน้ำมันหอมระเหยเผ็ดร้อน เป็นยาขับเหงื่อ ขับเสมหะ หรือโขลกกับน้ำส้มกวาดคอ แก้อักเสบเสียงแห้ง แก้ปวดศีรษะข้างเดียว ส่วนมากนิยมนำมาใช้ในการปรุงอาหาร หรือ นำมาบรรจุเป็นแคปซูลขายในร้านอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับคนที่มีความดันสูง อีกทั้งกลิ่นของกระเทียมยังไม่เป็นที่ชื่นชอบเท่าไร จึงมีบ้างแต่ก็ไม่เยอะเท่าที่ควรที่จะนำกระเทียมมาบริโภคเพื่อแก้หวัด
************************************************
มะนาว
สรรพคุณ
เป็นผลไม้ที่อยู่คู่ครัวไทยมานาน นอกจากจะเป็นเครื่องปรุงอาหารรสแซบที่หลายคนขาดไม่ได้ยังมีประโยชน์อีกมาก มาย เช่น เป็นเครื่องดื่มแก้กระหาย เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง สมุนไพร ทำเป็นน้ำยาล้างจานรักษาความสะอาด เครื่องหอมดับกลิ่น
ที่สำคัญในทางการแพทย์ น้ำมะนาวสามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมของยารักษาโรคได้ เช่นโรคลักปิดลักเปิด ยาแก้ไอขับเสมหะ หลายคนคงรู้จักดีว่าต้องบีบหรือคั้นน้ำ ผสมน้ำผึ้ง แล้วจึงใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อให้จิบบ่อย ๆ ก็จะช่วยได้เป็นอย่างดี หรือจะใช้เป็นยาทาแก้กลาก เกลื้อน หิด ด้วยการบีบน้ำมะนาวผสมผงกำมะถันทาก่อนนอน ทาแก้น้ำกัดเท้าก็ได้ด้วย
สำหรับเปลือกของมะนาว
ก็มีประโยชน์ไม่แพ้กันแม้จะมีรสขม ช่วยขับลม รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ซึ่งวิธีใช้โดยการนำเปลือกสดของมะนาวประมาณครึ่งผล คลึงให้น้ำมันออกมาแล้วฝานบาง ๆ ชงกับน้ำร้อนดื่มเวลามีอาการหรือหลังอาหาร 3 เวลา
นอกจากนี้ มะนาวยังสามารถสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ร่างกายได้ด้วย เช่น ช่วยลดและควบคุม คอลเลสเตอรอลในเลือดซึ่งเป็นไขมันไม่ดี จะทำให้ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจเป็นอย่างดีโดยเฉพาะผู้หญิงวัยทอง ในระยะหลังมีผลงานวิจัยจากต่างประเทศหลายชิ้นงานที่ระบุว่า น้ำมะนาวเข้มข้นมีฤทธิ์ต้านการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ ปอด ช่องปาก กระเพาะอาหาร และมะเร็งเต้านมได้อีกด้วย
นับว่าผลไม้ลูกเล็กๆ นี้มีประโยชน์อเนกอนันต์ จงใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย ยังสร้างรายได้ให้ชาวไร่ชาวสวน ในขณะเดียวกันการปลูกมะนาวก็ยังส่งผลต่อการรักษาสภาพดิน น้ำ เรียกว่าส่งเสริมการใช้การกินมะนาวได้ประโยชน์ทั้งคน และสิ่งแวดล้อม ใครที่ไม่ชอบก็ต้องหัด ใครที่ชอบก็ส่งเสริมให้กินให้ใช้มะนาวแท้ ๆ อย่าไปใช้มะนาวเทียม หรือ น้ำอัดลมรสมะนาว เพราะนั่นจะไม่ได้ประโยชน์อย่างที่ต้องการแล้วอาจมีโทษแทรกมาอีกด้วย
************************************************