- 10 วิธีในการชาร์จพลังให้ร่างกายและจิตใจ

10 วิธีในการชาร์จพลังให้ร่างกายและจิตใจ
1. การอ่านหนังสือในมุมที่ต่างออกไป
ใน ทุกวันของการทำงาน บางคนวุ่นวายอยู่กับกองเอกสาร แล้วสานต่อหลังเลิกงาน หรือไม่ก็เรียนพิเศษเพิ่มเติม (เหมือน Kapaeng เลย) โดย 80% ของคนทำงานโดยทั่วไปนั้นมักอ้างถึงสิ่งเหล่านี้ ไม่เช่นนั้นแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไรดี ลองหันมาอ่านหนังสือดูสิ อาจไม่ใช่เพราะการอ่านเพื่อจุดประสงค์บางประการ แต่บางทีอาจเป็นเพียงเพราะตรงกับความสนใจหรือมีความชอบเป็นพิเศษ การอ่านหนังสือแบบนี้จะทำให้ตัวเรานั้นรู้สึกสนุกสนาน และสามารถเปลี่ยนแปลงทั้งมุมมองและความคิดของคุณได้

2. ผลิตภัณฑ์เครื่องหอมสำหรับร่างกาย
การ บำรุงดูแลรักษาผิวเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งนอกจากส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์บำรุงดูแลผิวแล้ว ไม่กี่ปีมานี้ผลิตภัณฑ์เครื่องหอมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ได้รับการจับตามอง มีบริษัทจำนวนไม่น้อยที่หยิบยกเอาความรู้ทางด้านกลิ่นหอม ว่าสามารถเปลี่ยนแปลงความรู้สึกภายในจิตใจได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงและผลสำเร็จของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างนี้ กลิ่นก็เป็นส่วนหนึ่งในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในการบำรุง

3. การออกกำลังพร้อมกับเสียงเพลง
หากเมื่อเราเกิดความรู้สึกกดดันหรือก่อเกิดความเครียด รู้จักใช้การออกกำลังกายเป็นตัวช่วยในการผ่อนคลายให้เป็นประโยชน์ โดยการออกไปวิ่ง การเต้นแอโรบิคหรือต่อยมวยนอกบ้าน หรือจะเป็นการยืดเส้นยืดสายแบบการเล่นโยคะ ไม่ว่าจะออกกำลังกายในรูปแบบใด มาออกกำลังไปพร้อมกับจังหวะของเสียงเพลงด้วยกันดีกว่า

4. ออกไปท่องเที่ยว
ความ แออัดของเมืองหลวง ไม่ว่าจะสถานที่ใด ๆ ต่างก็เต็มไปด้วยผู้คนและข่าวสารต่าง ๆ นา ๆ หลายคนอาจกลายเป็นคนที่มีจิตใจคับแคบและเสียเวลาไปกับการแก้ไขปัญหาจุกจิก ต่าง ๆ ลองออกไปสัมผัสบรรยากาศข้างนอกบ้าง เช่นไปเที่ยวทะเล ภูเขา น้ำตก ทิวทัศน์และทัศนียภาพต่าง ๆ เหล่านี้จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของคุณ สามารถทำให้เรากลายเป็นคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใสได้ง่ายขึ้น แล้วเรื่องราววุ่น ๆ ในที่ทำงานและความรู้สึกนึกคิดที่มีระหว่างบุคคลจะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไป ในทันที (จริงเปล่าค่ะ)

5. ปิดโทรศัพท์มือถือซะบ้าง
ใน สังคมปัจจุบันผู้คนต่างเป็นโรคติดข่าวสารไม่มากก็น้อย และต่างก็รู้สึกเป็นกังวลต่อการพลาดข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางโทรศัพท์หรืออีเมล์เพียงสักฉบับ จนทำความสมดุลของชีวิตประจำวันเสียศูนย์ไป ดังนั้นแค่เพียงตัวเราเลือกที่จะปิดมือถือหรือคอมพิวเตอร์บ้างในแต่ละวัน แล้วใช้เวลาอยู่กับตัวเองในการคิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาหรือในแต่ละวัน รู้จักตระหนักถึงสิ่งต่าง ๆ และเตือนตัวเราเองอยู่เสมอ ลดอาการหุนหันพลันแล่น เพราะฉะนั้นหากไม่อยากให้ความกดดันที่ไร้ตัวตนมาพรากเวลาไปจากตัวเรา สิ่งสำคัญคือเราควรจะกำหนดเวลาในการเปิดปิดโทรศัพท์มือถือ ซึ่งหากมองดูแล้วอาจเป็นวิธีที่ง่ายแต่ไม่ง่ายต่อการตัดสินใจ ต้องใช้ทั้งความกล้าหาญและการตัดสินใจที่เฉียบคมในการตัดสินใจเพื่อที่จะได้ ทำให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี (Kapaeng ไม่เคยปิดมือถือเลยอะ)

6. สูดลมหายใจลึก ๆ
การ หายใจเร็วหรือสั้นเกินไปจะทำให้ออกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกายไม่เพียงพอต่อความ ต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ถูกกดดันอย่างยิ่งแม้กระทั่งในเวลาอารมณ์ร้อน มักจะเกิดอาการขาดออกซิเจนได้ทั้งนั้น ดังนั้นเพียงแค่ 10 นาทีต่อวันในการตั้งใจสูดลมหายใจโดยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกทางปาก การหายใจเข้าลึก ๆ แบบนี้จะเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกาย ส่งผลให้สมองของเรานั้นรู้สึกปลอดโปร่ง อารมณ์สงบขึ้น

7. ออกไปรับ ความอบอุ่นจากแสงแดด
การ รับแสงอาทิตย์ในปริมาณที่เหมาะสม แท้จริงแล้วสามารถคลายความกังวลทั้งหลายให้เบาลง ทำให้ร่างกายรู้สึกอบอุ่นมีความสุข ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อร่างกายในส่วนของการดูดซึมวิตามิน ปล่อยตัวเราให้กับแสงแดดได้โอบกอดโดยก่อนที่จะรับเอาความอบอุ่นจากแสงแดด นั้น เราควรเตรียมพร้อมในการปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย

8. หนึ่งโอบกอดที่จริงใจ
เด็ก ที่ได้รับการโอบกอดมาตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อเติบโตขึ้นก็จะมีความรู้สึกปลอดภัย มั่นคง เพราะฉะนั้นคุณควรโอบกอดกับคนที่ใกล้ชิดคุณเสียตั้งแต่วันนี้ ให้อ้อมกอดอันอบอุ่นกับพ่อแม่ คนในครอบครัว เพื่อน คนรักเถอะ เพราะจะทำให้ความรู้สึกผูกพันได้พัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ บางครั้งอาจมีพลังมากกว่าคำพูดก็เป็นได้

9. เน้นผักและผลไม้ในแต่ละวัน
อาหาร ประเภทผักสด ผลไม้ต่าง ๆ ช่วยลดภาระให้ลำไส้และกระเพาะ โดยการปรับเปลี่ยนนิสัยเกี่ยวกับการบริโภค ไม่เพียงแต่ทำให้รูปร่างของคุณดูดีขึ้น อารมณ์ของคุณก็จะรู้สึกปลอดโปร่งอีกด้วย

10. ทำบุญ - มูลนิธิ - บริจาค
ใครที่กำลังหาแหล่งทำบุญวัน เกิดดี ๆ แวะเข้าชมเว็บต่าง ๆ ด้านล่างได้ครับ มีงานบุญหลากหลายจริง ๆ หรือหากต้องการบอกบุญก็ไปตั้งกระทู้ตามเว็บนั้น ๆ ได้ครับ ขออนุโมทนากับทุกท่าน (ทำทานแล้วก็อย่าลืมรักษาศีล กับเจริญภาวนาด้วยนะครับ จะได้บุญกันอย่างเทียบไม่ได้เลยทีเดียว)
(10.1)  ศูนย์รวมการบริจาคออนไลน์
เว็บศูนย์รวมการบริจาคออนไลน์ รวบรวมมูลนิธิต่าง ๆ ได้ดีที่สุดแล้วครับ ฐานข้อมูลการทำบุญที่ใหญ่ที่สุด มีแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่อผู้ที่ต้องการบริจาคในแบบที่ตนต้องการ เช่น บริจาคเงิน อวัยวะ เสื้อผ้า สถานสงเคราะห์ เด็ก คนชรา สัตว์ ฯลฯ

ลานธรรม
ห้องสมาชิกสัมพันธ์ของเว็บลานธรรม เพื่อประกาศบอกบุญต่าง ๆ

เว็บบอร์ดธรรมจักร
กิจกรรมงานบุญต่าง ๆ เว็บบอร์ดธรรมจักร

เว็บบอร์ดพลังจิต
สารพันงานบุญเว็บบอร์ดพลังจิต ทั้งงานวัด วิหาร พระพุทธรูป ธรรมทาน กฐิน ผ้าป่า ฯลฯ

เว็บบอร์ดธรรมะไทย
กิจกรรมทำบุญต่าง ๆ จากบอร์ดประชาสัมพันธ์ของเว็บธรรมะไทย

ลานพระพุทธศาสนา
ลานประกาศและบอกบุญของเว็บลานพระพุทธศาสนา

(10.2)  แหล่งทำบุญวันเกิด-มูลนิธิที่น่าสนใจอื่น ๆ ที่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีได้ทันที
มูลนิธิรามาธิบดี โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
โครงการที่กำลังต้องการความช่วยเหลืออีกมาก โอนเข้าบัญชีได้โดยตรง

ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์
บริจาคช่วยเหลือวัดพระบาทน้ำพุ

ช่วยเหลือพระสงฆ์
บริจาคช่วยเหลือโรงพยาบาลสงฆ์

ช่วยเหลือเด็ก
ชมรมรุ้งกินน้ำ
มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก
มูลนิธิเด็กโรคหัวใจ
มูลนิธิรักษ์เด็ก
มูลนิธิพิทักษ์สิทธิเด็ก
มูลนิธิเพื่อผู้ด้อยโอกาสศูนย์พลาญย่อย

ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
มูลนิธิปอเต๊กตึ๊ง
มูลนิธิร่วมกตัญญู

ช่วยเหลือคนพิการ
มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย
มูลนิธิขาเทียม
มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย

ช่วยเหลือผู้หญิง
มูลนิธิเพื่อนหญิง
มูลนิธิผู้หญิง

ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และสังคมอื่น ๆ
มูลนิธิดวงประทีป
มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม
มูลนิธิโรคหัวใจแห่งประเทศไทย
สภากาชาดไทย

ช่วยเหลือสัตว์
มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ
มูลนิธิเพื่อนช้าง

ช่วยเหลือสังคมด้านทรัพยากรธรรมชาติ
มูลนิธิชัยพัฒนา
มูลนิธิฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ

- 10 วิธีคลายความเคลียด

10 วิธีในการคลายความเครียด
1. ฟังเพลง หามุมสงบ
นั่งปล่อยใจให้ล่องลอยอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วฟังเพลง เบา ๆ โดยเฉพาะเพลงจำพวก Meditation ซึ่งเดี๋ยวนี้มีให้เลือกหลากหลายแบบตามความต้องการ ทั้งเสียงของดนตรี บรรเลงหรือเสียงธรรมชาติ จำพวกเสียงคลื่น..เสียงน้ำตก..เสียงนกร้อง รับรองว่าจะช่วยสร้างสมาธิให้กลับคื่นสู่สมองและจิตใจได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ในช่วงระยะเวลาเพียงสั้นๆ เชียวล่ะ

2. ฉายเดี่ยวดูภาพยนตร์
ขอแนะนำให้ฉายเดี่ยวแล้วตีตั๋วดูหนังดีๆ สักรอบ เพราะการไปดูหนังเนี่ยเป็นวิธีที่เวิร์คที่สุดที่จะปลดปล่อยความรู้สึกให้ ล่องลอยอย่างเป็นอิสระไม่จมอยู่กับปัญหา แถมระบายความอัดอั้นตันใจได้อย่างเห็นผล แต่ต้องถามตัวเองก่อนนะว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน เช่น ถ้าอยากร้องไห้ก็ไปดูหนังรักเศร้าเคล้าน้ำตาแล้วก็ร้องไห้ออกมาซะให้พอ หรือถ้าเครียดจัดก็จงไปดูหนังตลกแล้วหัวเราะให้หลุดโลกไปเลย

3. โทรหาเพื่อนรู้ใจ
อย่าคิดว่าตัวเองจะแก้ปัญหาทุกปัญหาได้ดีไปซะหมด หัวใจสาวมั่นแม้จะแกร่งเพียงใดก็ยังต้องการที่พึ่งพิงเสมอ ยกหูโทรศัพท์หาเพื่อนรู้ใจสันคนแล้วระบายความรู้สึกให้เพื่อนได้รับรู้ เพราะการมีคนรับฟังและให้คำปรึกษา จะทำให้ชีวิตที่เอียงกะเท่เร่เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น อย่างน้อยก็ยังรู้สึกว่า ไม่ได้แบกปัญหาอยู่คนเดียวในโลกไงล่ะ

4. เขียนไดอารี่
การเขียนไดอารี่เปรียบเสมือนการเปิดประตูอารมณ์ที่ปล่อยให้ความอัดอั้นตันใจ ต่างๆ ได้ไหลลงสู่หน้ากระดาษอย่างเป็นอิสระและเป็นส่วนตัวที่สุด เพราะการถ่ายเทความรู้สึกในใจออกมา จะทำให้จิตใจปรับสมดุลได้เร็วขื้น อีกทั้งระหว่างการเขียนไดอารี่นั้นยังถือเป็นการทบทวนความรู้สึกตัวเองที่ดี ที่สุดด้วย ส่วนข้อดีสุดเลิศอีกข้อก็คือ ไดอารี่เป็นเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ที่สุด เพราะรับฟังเราเสมอและไม่เคยเอาความลับไปบอกต่อไงล่ะ

5. พลังแห่งการสัมผัส
ลองมองหาใครสักคนช่วยโอบกอดหรือสัมผัสเบา ๆ เวลารู้สึกเหนื่อยล้าดูสิ เพราะร่างกายคนเราเวลาถูกสัมผัสเนี่ย จะทำให้เกิดฮอร์โมนที่ชื่อ “อ๊อกซี่โทชิน” ซึ่งมีผลในการลดระดับความเหนื่อยและความเครียด ช่วยให้ร่างกายที่กำลังอ่อนล้ารู้สึกผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

6. สร้างอารมณ์ขัน
พยายามมองหาเพื่อนที่มีอารมณ์ขันช่วยกระตุ้นจิตใจที่แสนห่อเหี่ยวให้หัวเราะ ได้อีกครั้ง เพราะคนที่หัวเราะง่ายจะมีสุขภาพจิตที่ดี เนื่องจากการหัวเราะจะช่วยลดความดันโลหิตและระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลลง (ฮอร์โมนคอร์ติซอล = ฮอร์โมนแสดงความเหนื่อยล้าในกระแสเลือด) แถมยังช่วยเสริมสร้างระดับของ “อิมโมโนโกลบูลินเอ” ซึ่งเป็นสารแอนตี้บอดี้ที่สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอีกด้วยนะ เพราะฉะนั้นหัวเราะเข้าไว้ แล้วจะดีเอง

7. สูดกลิ่นหอม
รู้หรือเปล่าว่า…กลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์มีผลในการช่วยปลุกประสาทสัมผัส ให้สดชื่นตื่นตัว แถมยังกระตุ้นพลังงานในจิตใจได้เป็นอย่างดี เวลาเครียด ๆ ก็ลองสูดกลิ่นหอมของดอกไม้สิ อย่างกลิ่นกุหลาบ มะลิ ลาเวนเดอร์ หรือจะหยดน้ำมันหอมระเหยในน้ำอุ่นกำลังดี แล้วนอนแช่ตัวให้เพลินสักครึ่งชั่วโมงก็ได้ กลิ่นหอมจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้อย่างบอกไม่ถูกเชียวล่ะ

8. ไปตากอากาศ
หาเวลาหลบไปสูดอากาศบริสุทธิ์กับชีวิตท่ามกลางธรรมชาติสักพัก สิ หายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ ปล่อยสมองให้ว่างที่สุด แล้วก็นอนให้มากที่สุดเท่าที่อยากจะนอน เพราะบางทีความรู้สึกเหนื่อยล้าและหดหู่แบบไม่ทราบสาเหตุเนี่ยมันมาจาก ชีวิตที่ยุ่งเหยิงจนเกินไป เพราะฉะนั้นหลบไปนอนตากน้ำค้างดูดาวเสียบ้าง หัวใจจะได้ชาร์จพลังได้ดีขึ้น

9. หาสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน
ลองหาสัตว์เลี้ยงสักตัวมาเป็นเพื่อนเล่นก็ไม่ เลวนะ เพราะการให้เวลากับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด คุยเล่น หยอกล้อกับมันเสียบ้าง จะช่วยให้จิตใจอันแสนจะฟุ้งซ่าน สงบลงได้ แถมรู้จักการให้และมองโลกในแง่ดีมากขึ้นอีกต่างหาก ที่สำคัญยังช่วยลดความดันโลหิตได้อีกด้วยนะ

10. จินตนาการแสนสุข
อีกทางเลือกสำหรับการบรรเทาความหดหู่ในส่วนลึก เป็นการดึงตัวเองออกจากโลกปัจจุบัน ทำได้โดยหลับตาแล้วหายใจลึก ๆ จากนั้นก็สร้างจินตนาการถึงความฝันที่วาดหวังเอาไว้ หรือแม้แต่ความหลังอันแสนสุขที่เคยมีการดึงความสุขจากจินตนาการมาใช้จะ ทำ ให้เกิดพลังสร้างสรรค์ในหัวใจ และยังช่วยสลายความเครียดข้างในได้เป็นอย่างดี ทำแบบนี้เงียบๆ สัก 5 นาที รับรองรู้สึกดีแบบทันตาเห็น

**********iFLoWeRs************

- เล่าเรื่องแฟน...

ถ้าคุณมีแฟนสักคน แล้วคุณจะเที่ยวเล่าเรื่องแฟนของคุณให้ใครๆ ฟังไปทั่วมั้ย? เพราะโดยทั่วไปคนเรามักชอบพูดถึงแฟนนะ ไม่ว่าการพูดถึงนั้นจะเป็นเรื่องดีเหลือหลาย ประมาณสร้างความประทับใจให้คุณอย่างสุดซึ้ง...โอ้ย ชักเคลิ้มแล้วเฟ้ย แต่มีอีกแหละที่บางคนชอบนำเรื่องที่แฟนสร้างปัญหา หรือก่อเรื่องไม่น่าโสภาสถาพรมาให้คุณกลุ้มใจอยู่บ่อยๆ ใช่ปะ
 

เอ้า...ไม่ว่าใครจะตอบอะไร แต่คนที่มีแฟนแล้ว ส่วนใหญ่ชอบนักล่ะที่จะเม้าท์ถึงแฟนตัวเองให้คนใกล้ชิดฟัง ส่วนเรื่องที่นำมาสาธยาย ถ้าไม่เป็นเรื่องที่เข้าข้างตัวเอง แบบว่าเอาความเจ๋งแจ๋วและดีเลิศของแฟนมาเล่า ก็มักนำเอาส่วนที่ "ไม่เอาไหน" และ "ขาดตกบกพร่อง" ของแฟนมาประจานต่อสาธารณชน งั้นเข้าเรื่องที่ใครๆ มักจะพูดถึงแฟนกันเลยนะ ได้แก่ แท่นแท้น...

1. ความหน้าตาดี น่ารัก และความเซ็กซี่ของแฟนน่ะสิ
ฮันแน่...คนที่มีแฟนสวย หรือแฟนหล่อ ชนิดหน้าตาดีกว่ามาตรฐานสากลทั่วไปนั้นถือว่า "เป็นต่อ" คนอื่นเยอะเลยนะ เป็นต่อตรงไหนนะเหรอ? อ้าว ก็ตรงที่สามารถนำเรื่องความงามของแฟนมาคุยเป็นคุ้ง เป็นแควกับใครๆได้มากกว่าอ่ะดิ่ โถ ก็คุณภูมิใจที่มีแฟนหน้าตาดีกว่าคนอื่นนี่หว่า แล้วคุณจะหุบปากไม่พูดและไม่เอ่ยถึงเค้าจริงอ่ะ แถม ถ้าแฟนดันเป็นคนเซ็กซี่ หุ่นดีด้วยอีกละก็ เป็นใครก็ต้องรักต้องหลงกันหัวฟัดหัวเหวี่ยงทั้งนั้นแหละว้า มิน่าคุณถึงได้ชอบถ่ายรูปแฟนเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือยิ่งนัก เผื่อกะเอาไว้โชว์ ชาวบ้าน แบบว่าถ้าใครดันหลุดปากถามเกี่ยวกับเรื่องฟงแฟนของคุณขึ้นมาเมื่อไหร่? แทนที่จะอิดออดไม่อยากตอบ ตรงข้ามจ้ะ คุณจะรีบโชว์รูปแฟนจากมือถือให้ใครๆดูทันที แถมดีไม่ดีบางคนงี้แทบจะบังคับให้คนอื่นดูภาพแฟนซะด้วยซ้ำ...เอ้า ก็ชั้นมีดีจะโชว์ก็ต้องโชว์ดิ ใครจะทำไมล่ะ?

 
2. ชอบพูดถึงหน้าที่การงานที่เจ๋งเป้งของแฟน
ใครมีแฟนที่มีหน้าที่การงานดี เป็นรัฐมนตรี, กรรมการผู้จัดการ, ผู้ จัดการ หรือเป็นหัวหน้างาน มักถูกนำมาเป็นหัวข้อสนทนากับชาวบ้านทั้งนั้นเลย เอ้าคิดดูเดะ คุณไม่อยากบอกให้ใครฟังเหรอว่า แฟนของคุณเป็นนางแบบหรือนายแบบที่มีค่าตัวแพงระยำ...เอ้ย แพงระยับ หรือถ้าแฟนคุณเป็นคนมี ชื่อเสียงในสังคมไฮโซ แบบว่าเป็นทายาทร้านจิวเวลรี่ อะไรสักแห่ง หนำซ้ำมักได้ยินชื่อของเค้าเป็นข่าวอยู่เสมอ แล้วมีรึที่คุณในฐานะแฟนของเค้าจะเก็บความปลาบปลื้มได้ไหว

 
3. ชอบพูดถึงความประทับใจในตัวแฟนให้คนอื่นฟังอยู่เรื่อยใช่มะ
ท่านว่าความประทับใจระหว่างกันน่ะเป็นสิ่งที่เก็บกดเอาไว้ไม่อยู่หรอก คนเรามักจะสำลักความสุขแล้วก็คุยให้คนโน้นคนนี้ฟังซำเหมอ ซึ่งเรื่องที่คู่รักจะสร้างความประทับใจให้แก่กันก็มีหลายอย่าง เช่น แอบทำอาหารเช้าไว้ให้คุณหม่ำ ทั้งๆที่เค้าไม่เคยเข้าครัวมาก่อน...แฟนบางคู่แค่นี้เค้าก็ประทับใจกันได้ เออ เอากะเค้าซี ดังนั้น หากท่านใดยังไม่ทราบ จะสร้างความประทับใจให้แฟนอย่างไร? แต่ อยากให้ แฟนนำเรื่องของเค้าไปคุยฟุ้งกะคนอื่นมั่งฮี่ (ประเภทอยากได้แต้มนิยมจากคนในสังคม) งั้นลองงี้สิ แจกบ้าน แจกรถ หรือไม่งั้นทุกสิ้นเดือนก็ซื้อทองให้แฟนสักเส้น สองเส้น...ว้ายตายแล้ว! แฟนกระเป๋าหนักหยั่งงี้น่านำไปนินทา เอ้ย คุยให้เพื่อนฟังจริงๆเล้ย

 
4. เอาลีลาบนเตียงของเค้ามาคุย
อ้าว...อย่าคิดนะว่า คนมีแฟนบางคนจะไม่กล้าเอาเรื่องในมุ้งไปเม้าท์ เพราะในกลุ่มเพื่อนสนิทกันมากๆน่ะ อยากแชร์เรื่องในมุ้งให้กันฟังนะตัว ไม่เชื่อดูอย่างหนังเรื่องเซ็กซ์ แอนด์ เดอะ ซิตี้ก็ได้ ที่นำเรื่องบนเตียงมาคุย ส่วนใหญ่มักขอคำปรึกษาหารือจากเพื่อนไงล่ะ เพราะในสนามรักน่ะ ต้องมีมั่งล่ะที่คุณหรือ แฟนจะทำอะไรเปิ่นและเฉิ่มออกมา แถมบางทีพวกคุณ อาจยังไม่ประสีประสาในเวทีรักซะด้วยซ้ำ ดังนั้น การเสวนาเรื่องนี้ คุณอาจได้บทเรียนใหม่ๆ ไปใช้ในสังเวียนรักเพื่อปรับปรุงลีลาให้เยี่ยมยุทธ์ ไปเลยก็ได้นี่นา ว่าไหมละฮ้า

- 10 ข้อ กับการพิสูจน์รักแท้‏

Hurt

10 ข้อ กับการพิสูจน์รักแท้‏






วัย และประสบการณ์ทำให้คนมีนิยามของ "รักแท้" แตกต่างกันไป บางคนก็ว่ารักแท้ไม่เคยอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์บางคนก็ว่ารักแท้คือรักที่กำลัง รักอยู่ยามนี้ บางคนก็ว่ารักแท้หาเอาได้ตามเตียงทุกเตียง แต่มีนักจิตวิทยาได้ให้ องค์ประกอบของรักแท้สำหรับให้ คนพิสูจน์ความรักหนนั้นของตนว่า ... มันเป็นรักแท้ขนานแท้.. รักแท้แบบปลอมปน ... หรือรักแท้ที่ปลอมสนิท
 

  1. ต้องมีความรู้สึกถึงความสุขเมื่ออยู่ใกล้คนๆ นั้น เมื่ออยู่ด้วยกันก็จะมีความสุขมาก ไม่เคยเบื่อที่มีเขาอยู่ใกล้ๆ และเมื่อยามที่เขาห่างไกลไม่ได้เห็นหน้า ก็จะรู้สึกเหงาๆ และคิดถึงเอง ไม่ใช่พอเขาหันหลังให้ยังเห็นชายเสื้อแว้บๆ ก็แทบจะตีปีกโลดเต้นดีใจแล้ว

  2. ต้องให้ความเคารพนับถือคนๆ นั้น ถ้าจะรักใครสักคน แล้วตั้งหน้าดูถูก ไม่เคยให้ความเคารพ ใครอื่นจะเคารพคนๆ นั้นของเราเอง และการที่ได้รักใคร่ กับคนที่ใครๆ เขาดูถูกกัน มันจะเหลือความภูมิใจในคนๆ นั้นสำหรับเราได้ยังไง

  3. ต้องรู้สึกว่าคนๆ นั้นเป็นที่พึ่งได้ เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ขึ้นในชีวิต ก็มั่นใจว่าเขาจะอยู่เคียงข้าง เพื่อคอยช่วยเหลือ ไม่ใช่ว่าเรากำลังจะตกตึกอยู่รอมร่อ ก็ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยฉุด

  4. ต้องเชื่อมั่นว่าถ้ามีปัญหาใดๆเกิดขึ้น...ความสัมพันธ์ยังก้าวต่อไป ไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหนสัมพันธภาพก็ยังคงดำเนินต่อไป เพราะคนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ถ้ารู้จักอภัยกันมันก็อยู่กันทน ไม่ใช่ผิดหนเดียวก็ถีบส่ง

  5. ต้องเข้าถึงความต้องการ อารมณ์ และความรู้สึกของคนๆ นั้น อย่างถ้ารู้ว่าชอบจะอยู่คนเดียวตามลำพังบ้างก็ควร เปิดโอกาสได้อยู่กับตัวเองด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่เปิดโอกาสอย่างกระเง้า กระงอด

  6. ต้องมีความรู้สึกต้องตาต้องใจในสรีระของคนๆ นั้น ไม่ว่าจะต้องเสน่ห์ในความเป็นหญิงกำยำ หรือในความล้านจนขึ้นเงาวับบนหัวเขา มันก็มีส่วนในความรักเหมือนกัน

  7. ต้องรู้สึกว่าเราสามารถจะพูดคุยกับคนๆ นั้นได้ทุกเรื่องอย่างเปิดอก สามารถที่จะขุดความรู้สึกส่วนลึกในหัวใจขึ้นมาพูดได้ ไม่ใช่ต้องปิดบังความรู้สึกส่วนนั้นไว้ เพราะกลัวว่าถ้าพูดออกมาแล้วเราจะอับอายหรือไม่ก็กลัวว่าเขาได้ยินแล้วจะผงะ หงายแล้วเดินหายไปจากชีวิต

  8. ต้องรู้สึกว่าคนๆ นั้นเป็นบุคคลที่มีคุณค่า ถ้าไม่มีเขาสักคน ชีวิตของเราจะรู้สึกถึงความสูญเสีย ไม่น้อยกว่าความรู้สึกที่เราสูญเสียสิ่งที่มีค่าไป

  9. ต้องรู้สึกเต็มใจที่มีส่วนร่วมกับคนๆ นั้นในหลายๆ ด้าน เป็นต้นว่า ความคิด อารมณ์ ความทุกข์ และเวลาสุข แต่ไม่ใช่ร่วมกับเขาไปหมด จนเขาไม่เหลือความเป็นตัวของตัวเอง

  10. ต้องรู้สึกอยากมีส่วนร่วมอยากรับฟังทุกอย่าง ไม่ว่าสิ่งนั้นมันเป็นสิ่งที่ดี หรือเป็นสิ่งที่ทุกข์ ที่เรียกว่า ร่วมทุกข์ร่วมสุข เพราะคนที่ต้องการแต่จะร่วมสุข นั่นหมายถึงว่าคุณไม่ได้มีรักแท้กับคนๆนั้น

ถ้า มีครบทุกข้อดังที่ กล่าวมา ให้ถือว่ากำลังมีรักแท้โดยสมบูรณ์ แต่ถ้าขาดไปสักข้อสองข้อ ก็ให้โมเมว่า ยังเป็นรักแท้อยู่.............

แต่ ถ้ามีเพียงหนึ่ง หรือสองข้อในจำนวนทั้งหมดที่กล่าวมา ก็จงอย่าพยายามหลอกตัวเอง ว่ารักนี้เป็นรักแท้ เพราะไม่เช่นนั้นทั้งสิบคนที่คบอยู่จะเป็นรักแท้ไปหมด...

- เรื่องรักๆ ลับๆ ระหว่าง ชาย : หญิง


จุดเสียวของหญิงสาวที่ท่านชายควรรู้
                 แต่จะยังมีจุดอื่นอีกหลากหลายบนเรือนร่าง ที่สามารถ สร้างอารมณ์ตื่นเต้นและความรู้สึกตื่นตัวอย่างรวดเร็วได้

                  ต่างกับฝ่ายชาย ที่จุดสร้างความพึงพอใจทางเพศ และความตื่นตัวทางเพศ มักจะจำกัดอยู่เพียงบริเวณ ปลายและลำอวัยวะเพศ อัณฑะ รอบรูทวารหนัก เท่านั้น หลายคนคงสงสัยโดยเฉพาะในหมู่ผู้ชาย และมักมีหัวข้อในการสนทนา เรื่องนี้อยู่บ่อยๆ ต่างคนมักจะคาดเดา และพูดกันไป ถึงจุดซ่อนเร้นต่างๆบนเรือนร่างบ้างก็เคยได้มีโอกาสทดสอบด้วยตัวเองมาแล้ว
วันนี้ผมรวบรวมเอาจุด ต่างๆ10 ตำแหน่งที่ถือว่าเป็นจุด อ่อน ของคุณผู้หญิง เท่าที่ได้มีการศึกษาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ จุดดังกล่าว ถ้าได้รับการกระตุ้น อย่างถูกวิธี ไม่ว่ารายไหนรายนั้นเป็นได้เรื่อง

10.บริเวณต้นขาด้านใน
ต้นขาด้านในเป็นตำแหน่งที่มีปลายเส้นประสาทมาหล่อเลี้ยงมาก การได้รับการกระตุ้นอย่างแผ่วเบาไม่ว่าจากการ ลูบไล้ หรือ โลมเลีย สามารถจุดประกายอารมณ์ ของคุณผู้หญิง ให้เตลิดเปิดเปิงไปได้ ตำแหน่งนี้ อาจจะลดต่ำลงมาถึงบริเวณข้อพับเข่าด้านหลัง แต่อย่าลืมนะเนื่องจากตำแหน่งดังกล่าวไวต่อความรู้สึกมาก การหยิก จิกเนื้อเพียงเบาๆ อาจจะทำให้ เกิดอาการเจ็บได้อย่างมาก คุณผู้ชาย ที่กำลัง เมามันอย่าเผลอ ไปกัดเอาเนื้อบริเวณนี้เข้า ก็แล้วกัน

9.ข้อพับเข่า

พบว่า ตำแหน่งนี้เป็นอีกตำแหน่ง คุณผู้ชายอาจจะคาดไม่ถึง ตำแหน่งนี้ จะไวมากต่อการ สัมผัสกับลมเป่าหรือการแทะเล็มเบาๆจากริมฝีปาก รับรองคุณผู้ชายจะคาดไม่ถึง ถึงอาการและปฏิกิริยาตอบสนองจากฝ่ายหญิง ผมให้ลับตานึกภาพกันเอาเอง


8.แก้มก้น
แน่นอนผู้หญิงส่วนใหญ่ ชอบที่จะให้ มีการนวดคลึงบีบเค้นบริเวณแก้มก้น ระหว่างมีบทรัก บ้างก็ชอบให้ใช้ความแผ่วเบา จากริมฝีปาก ของฝ่ายชายลูบไล้ ไปมา บ้าง ก็ชอบให้ใช้ส่วนอื่น.....มาสัมผัส คุณคงจะเคยเห็น ในภาพยนตร์ฝรั่งอยู่บ่อยๆ ที่มีการ ฉายภาพ Close up เข้ามาที่มือของพระเอกในขณะที่ กำลังบีบเค้น แก้มก้น ของนางเอก ในฉากเต้นรำกลางงานเลี้ยงที่หรูหรา การบีบเค้น นัยว่า จะทำให้ฝ่ายหญิง รู้สึกเคลิ้มสบายและผ่อนคลายมากกว่า การจะปลุกสร้างอารมณ์ที่ตื่นเต้น แต่อย่างไรก็ตามจุดนี้ถือเป็น องค์ประกอบที่สำคัญในการที่จะสร้างความอุ่นใจ และ และพิสูจน์ความไว้ใจและมอบใจจากฝ่ายหญิง ให้ฝ่ายชายได้เป็นอย่างดีหากไม่มีการปัดป้องจากฝ่ายหญิง
 


7.ซอกต้นคอ
การกระตุ้นด้วยลมหายใจ ร่วมกับ เสียงครวญเบาๆ ที่ตำแหน่งต้นคอ ไล่เรียงไปจากด้านข้างสู่ด้านหลัง ขณะที่มือคุณ ให้การสัมผัสที่ชายผมบริเวณท้ายทอย สามารถสร้างอารมณ์ตื่นเต้นและความต้องการ ขึ้นมาได้อย่างทันที ราวกับการจุดผลุอารมณ์ที่พร้อมจะระเบิดทะยานพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดได้อย่างฉับพลัน


6.ใบหู
การใช้ริมฝีปาก ลิ้น กระตุ้นที่ใบหูอย่าง แผ่วเบา ร่วมกับ การ หายใจเป่าลมเข้าไปในรูหูอย่างเบาๆและต่อเนื่องสักระยะ หรืออาจจะเปลี่ยน เป็น เสียงกระซิบกระซาบ แบบอาศัยลมเป่าจากการกระซิบ ทำให้ผู้หญิง นักต่อนัก สะกดกลั้นอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ รายไหนรายนั้น เสียงกระซิบอย่างแผ่วๆ ต้องเป็นเนื้อหา ที่จะให้อารมณ์คล้อยไปด้วยนะ อย่ากระซิบเป็นอันขาดว่า “ที่รักคุณน่าจะแคะขี้หูหน่อยนะ” ผมเพียงแต่ยกตัวอย่างขึ้นมาให้เห็นเท่านั้นเองว่าเนื้อหา ของการกระซิบควรจะเป็นเนื้อหาที่สร้างอารมณ์มากกว่า การดับอารมณ์


5.เท้า
ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยเลยชอบที่จะได้รับการ สัมผัส บีบนวดที่ เท้า เกาที่ ฝ่าเท้า ซอกนิ้วเท้า และ ข้อเท้า การ บีบเค้นนวดที่ส้นเท้า จะช่วยสร้างอารมณ์ อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ได้ผลชะงัด การกระตุ้น ที่บริเวณนี้ ผู้ชายบางคนอาจจะใช้ริมฝีปากจิก กัด ที่ปลายนิ้วเท้า ของผู้หญิง ระหว่างที่หญิงกำลังใช้จินตนาการในการ สร้างอารมณ์ หากคุณจะใช้ริมฝีปากประทับไปที่ฝ่าเท้า คุณต้องมั่นใจในความสะอาด เรื่องนี้ผู้ชายบางคนถึงกับ ต้องให้มีการชำระล้างอาบน้ำก่อนทุกครั้ง


4.ข้อมือ
ผู้ชายหลายคน คงต้องตกใจ ถ้าผมบอกว่า ข้อมือ เป็นจุดเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ อีกแห่งที่ฝ่ายชายอย่าละเลย คุณไม่เชื่อ ลองครั้งต่อไป ของคุณลอง ประเล้าประโลม (Foreplay) ที่บริเวณข้อมือ ดูนะ ไม่ว่าจะจาก การ สัมผัส ลูบไล้ด้วยมือ หรือ ประทับ ด้วยริมฝีปาก กัดเบาๆด้วยริมฝีปากหรือฟัน หน้า ของคุณ รับรองว่า จะเห็นผลอย่างคาดไม่ถึง


3.ถันและยอดถัน
จุดนี้คงไม่อยู่เหนือความคาดหมาย ทุกคนคงทราบดี ต่างกันที่วิธีการเท่านั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบและพึงพอใจ กับการถูกกระตุ้นที่ตำแหน่งนี้ ด้วยการการใช้ปาก ดูด (Sucking) เลีย(Licking) กัดเล็ม (Bitting) คุณผู้ชายอาจจะต้องเรียนรู้ในคู่ของตัวเอง ไปว่าพึงพอใจแบบใดมากที่สุด อย่าลืมอย่างนะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนชอบความรุนแรงแบบตะกละตะกลาม กับอวัยวะส่วนนี้ของตน


2.อวัยวะเพศ ที่ คลิตอริส
ไม่ว่าการใช้ปาก ลิ้น นิ้วมือ สามารถ ทำให้ เกิดความพึงพอใจถึงขีดสูงสุดได้ และยิ่งถ้าคุณได้เรียนรู้ถึงตำแหน่ง G-spot ของฝ่ายหญิงด้วย การกระตุ้นที่จุดนี้ นำไปถึงซึ่งความสุขแบบสุดยอด ได้เลย

1.ริมฝีปาก
คุณผู้ชายอาจจะต้องเรียนรู้ในการกระตุ้นที่จุดนี้ให้มากที่สุด การใช้ ริมฝีปาก ทั้งบนและล่าง ลิ้น ฟัน ประทับ จิก กัด ลิ้นไล้เลีย หรือแม้แต่การดูด เบาๆ

(จากเวปเพื่อนบ้าน)

สาววัยใด...เซ็กซ์สุดยอดเยี่ยม‏






ยิ่งอายุมาก ผู้หญิงก็ยิ่งมีคุณภาพกับการมีเซ็กซ์ สาววัย 30 มักประสบความสำเร็จกับการถึงจุดสุดยอดมากกว่าวัยอื่น คุณเคยนึกสงสัยมั้ยว่าในชีวิตคู่นั้นบางครั้งก็มีอารมณ์อีโรติกที่จะมีกุ๊กกิ๊กกับสามี แต่บางครั้งก็ไร้ซึ่งอารมณ์สุนทรีย์ อยากผลักไสเขาให้ไปห่างตัวชั่วคราว
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะร่างกายมีอิทธิพลต่ออารมณ์และการเสพสุขทางเพศของเรานั่นเอง ซึ่งจะผันแปรไปตามวัยที่มากขึ้น อย่างเช่น จากที่เคยเป็นคนขลาดกลัวก็กลายเป็นคนที่กล้าบ้าบิ่นได้ ก็เหมือนกับอารมณ์เซ็กซ์ที่มีขึ้นมีลง และเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เสมอและสิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็คือ "เซ็กซ์จะดีเยี่ยมแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับวัยด้วย"

20+

สาวน้อยวัยรุ่นส่วนมากยังมีความฝัน ความหวังและต้องการความสุขสมหวังในชีวิต
แต่เมื่อถึงวัย 20 ชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนไป  คือเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นเพราะมีประสบการณ์ส่วนตัวมาบ้างแล้วและในช่วงวัยนี้ก็เป็นช่วงวัยที่กำลังสั่งสมประสบการณ์ (รัก) เท่าที่จะเป็นไปได้  ไม่ว่าจะเป็นรักที่เร่าร้อนหรือความกล้าที่จะแสดงออกถึงความรักต่อเพศตรง ข้าม แต่บางครั้งก็มีความสับสนยุ่งเหยิงกับความคิดของตัวเองแล้วก็จะค่อยๆ มีสติสัมปชัญญะขึ้นและก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่สาวๆ ในวััยนี้จะชอบมีกุ๊กกิ๊กกับหนุ่มๆ ในยามว่างโดยที่ความสัมพันธ์ยังไม่จำเป็นต้องลึกซึ้งถึงขั้นขึ้นเตียงด้วยกัน

ทั้งนี้ ความปรารถนาที่แท้จริงในเรื่องของเซ็กซ์ของสาววัยต้นๆ 20
 นั้นยังไม่ชัดเจน เพราะพวกเธอมัวแต่ยุ่งอยู่กับการค้นหาความอัศจรรย์ของร่างกายตัวเองและแฟนหนุ่ม และมักมีคำถามที่ขาดความมั่นใจในตัวเองว่า "ฉันมีเสน่ห์มั้ย  ฉันทำทุกอย่างถูกต้องมั้ย เขาเห็นว่าฉันดีพอสำหรับเขามั้ยนะ" นอกจากนี้เซ็กซ์ของสาวในวัยนี้ก็ค่อนข้างร้อนแรง แต่ไม่ค่อยถึงจุดสุดยอดเท่าไหร่  แม้ว่าจะเป็นวัยที่มีเซ็กซ์บ่อยแต่ก็เป็นเซ็กซ์ที่ยังไม่ต้องใจ  เพราะเป็นช่วงวัยที่ค้นหาความต้องการของตัวเองและความต้องการของร่างกายด้วย

30+

เมื่อมาถึงวัยนี้  
ผู้หญิงมีความเชื่อมั่นมากกว่าเดิมอันเนื่องมาจากประสบการณ์อาโนเนะที่ผ่านๆมา จึงเริ่มรู้อะไรๆ มากขึ้น เป็นวัยที่พัฒนาการไปสู่ความมีเสน่ห์ของตัวเอง ความหวาดกลัวเริ่มน้อยลง  ไม่ลังเลเหมือนเมื่อก่อน มีอารมณ์และจินตนาการสำหรับความสนุกสนานมากขึ้น
นอกจากนี้ ผู้หญิงในวัยนี้ส่วนมากจะมีความต้องการเซ็กซ์มากที่สุด  คือมีความอยากรู้อยากเห็นและชอบทดลองว่าเซ็กซ์แบบไหนจะให้ความสุขสนุกสนาน ไม่ใช่เป็นคนไม่มีรสนิยมแต่เกิดจากความอยากลองมากกว่าและผู้หญิงในวัยนี้แหละที่มีแนวโน้มจะคบชู้สู่ชาย นอกจากนี้  ผู้เชี่ยวชาญยังค้นพบว่าผู้หญิงในวัย 30+  มักประสบความสำเร็จกับการถึงจุดสุดยอดจากการร่วมเพศ  แต่ถึงอย่างไรผู้หญิงในวัยนี้ก็ยังมีความสุขสงบและมีความรับผิดชอบต่อครอบครัวและการงานแม้เธอจะยุ่งเหยิงกับความรับผิดชอบต่างๆ  แต่ตกกลางคืนเธอก็สามารถที่จะกุ๊กกิ๊กบนเตียงกับสามีได้

ฉะนั้น
ชายหนุ่มน้อยหนุ่มมากที่คิดว่าสาววัยเอ๊าะเท่านั้นถึงจะสนุกสุดเหวี่ยงบนเตียงด้วยได้ก็เปลี่ยนความคิดเสียใหม่

40+
ผู้หญิงในวัยนี้มีสมรรถภาพสูงสุดทางร่างกายและจิตใจ  เธอจึงได้เปรียบในเรื่องของประสบการณ์  และพวกเธอก็รู้ว่าจะหาความสุขกับเซ็กซ์อย่างไรและจะยั่วยวนผู้ชายอย่างไร  พวกเธอไม่ต้องพิสูจน์อีโรติกของตัวเองเพราะมีคติว่า "น้อยๆ แต่คุณภาพคับแก้ว" พวกเธอเรียนรู้การใช้มือ ปาก คำพูด และการกระทำ
ผู้หญิงในช่วงวัยนี้มีความมั่นใจที่จะเสพสุขทางเพศ  พวกเธอค้นพบว่าการมีเซ็กซ์แบบรวดเร็วก็ให้ความตื่นเต้นดีพอๆ กับบทรักที่ยาวนาน นุ่มนวล และอบอุ่น  พวกเธอเพิ่งรู้ว่าเซ็กซ์ที่สวยงามไม่จำเป็นต้องเป็นเซ็กซ์ที่เพอร์เฟ็กต์  การมีเซ็กซ์ด้วยสติสัมปชัญญะนั้นมีเสน่ห์กว่าการมีเซ็กซ์กับหนุ่มหล่อมาดแมน ที่เอาแต่ใจตัวเอง แล้วคุณจะเห็นว่า ยิ่งอายุมากเท่าไหร่  เซ็กซ์ยิ่งมีคุณภาพมากเท่านั้น

(ข้อความจาก..เมลล์เพื่อน)

เซ็กซ์ทอย,SEXTOYS , SEX  , เซ็ก , เซ็กซ์ ,  เซ็กส์  , SEXY ,  XXX , AV , JAPAN



น้องชายแบบไหนที่สาวชอบ‏


เคย อ่านมาจากไหนไม่ทราบว่าขนาดนั้นไม่สำคัญ ต่อมาก็เกิดการถกเถียงกันในเว็บไซต์ว่าไม่จริง ต้องแข็งเต็มที่เท่านั้นจึงจะทำให้ผู้หญิงไปถึงจุดสุดยอดได้ดีกว่า เร็วกว่า เลยอยากถามว่า เล็กยาว กับอวบสั้น อย่างไหนถึงใจกว่า...วรพจน์/กทม.



อวบสั้นแน่นอน เป็นคำตอบสุดท้ายที่ ไม่ต้องถกเถียงกันอีกต่อไป จริงอยู่เทคนิคของการร่วมรักนั้นเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะทำให้ผู้หญิงไปถึง ดวงดาวได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงของการเล้าโลมที่เรียกว่า foreplay นั้น การทำออรัลเซ็กซ์ที่ถูกหลักและน่าตื่นเต้น สามารถทำให้ผู้หญิงไปถึงไคลแม็กซ์ได้โดยไม่ต้องสอดใส่เลย

และเมื่อถึงเวลาสอดใส่ผู้หญิงก็จะสามารถที่จะถึงจุดสุดยอดได้ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าโดยขนาดแทบไม่สำคัญเลยตอนนั้น หรือการเล้าโลมวิธีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการลูบไล้สัมผัสไปทุกซอกทุกมุม รวมทั้งการเสียดสีสัมผัสทุกกลีบแห่งความลึกล้ำก็ล้วนแล้วแต่เป็นเทคนิคในการ จูงเธอคนนั้นขึ้นสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อถึงอาหารจานหลักเวลาที่ชายชาตรีสอดใส่ของเขาเข้าไปนั้น

จะต้องทราบว่าคลิตอริสที่โผล่ออกมาเล็กน้อยนั้นยังคงมีส่วนต่อเป็นวงรอบ ช่องคลอดของเธอตลอดวง การเสียดสีคลิตอริสด้านนอกเป็นการนำไปสู่จุดสุดยอดแบบหนึ่ง ขณะเดียวกันเมื่อส่วนของลำตัวคลิตอริส ได้รับการยืดขยายอย่างเป็นจังหวะจะโคนจากขนาดของอวัยวะเพศชาย ก็จะเกิดการยืดหดเป็นจังหวะที่จะทำให้เธอไปถึงดวงดาวได้อย่างมีคุณภาพเช่น กัน

ขนาดจึงมีความสำคัญด้วยประการฉะนี้ ความอวบอ้วนของอวัยวะเพศชายย่อมจะทำให้ปรากฏการณ์เป็นความจริง และเคล็ดลับในการจะทำให้อวัยวะอวบอ้วน แข็งแรงก็คือการใช้งานเป็นประจำสม่ำเสมอนั่นเอง อย่าลืมนะคุณนะ

(ข้อความจาก..เมลล์เพื่อน)


ชุดชั้นใน ใส่ยังไงให้สวย‏




     สาวๆ หลายคนมักมีปัญหาหน้าอกหน้าใจไม่สวยตูมๆ เหมือนคนอื่นๆ เค้า วันนี้ women.mthai ขอแนะนำวิธีที่
จะทำให้คุณสาวๆ หน้าอกดูสวยเข้ารูปด้วยวิธีการเลือกและใส่ชุดชั้นในมาฝากกันค่ะ


     วิธีการเลือกชุดชั้นในนั้น เราจะต้องดูรูปทรงของทรวงอกซะก่อนว่าทรวงอกเราเป็นแบบไหน...โดยยืนหันก้ม
ตัวลงให้หน้าอกของคุณทั้งด้านหน้าและด้านข้างมองดูรูปทรงหน้าอกในกระจกแล้วพิจารณาดูว่าเป็นแบบไหนกัน



ทรวงอกแบบต่างๆ 





     อกลูกเชอรี่ 
คุณสาว ๆ ที่มีอกรูปเชอรี่นั้น ถือว่าเป็นอกที่ค่อนข้างเล็กและแบนราบจนเห็นฐานเต้าไม่ชัด ความ
พุ่งชันของกล้ามเนื้อมีน้อยมาก การเลือกยกทรงจึงควรเลือกสวมใสแบบเสริมฟองน้ำ เพราะจะช่วยให้ทรวงอกดูมี
เนื้อมีหนังมากยิ่งขึ้นไม่ดูเรียบแบนจนเกินงามค่ะ

     อกลูกมะนาว 
อกแบบนี้เป็นลักษณะของอกที่มีฐานของเต้านมกว้าง มีความพุ่งชันของกล้ามเนื้อ ทรวงอกค่อน
ข้างน้อย การเลือกใช้ยกทรงควรเลือกแบบเต้าสามเหลี่ยมมีฐาน เพราะยกทรงชนิดนี้สามารถช่วยเก็บเนื้อด้านข้าง ทำให้ทรวงอกคงที่ ช่วยอำพรางให้หน้าอกแลดูอวบอิ่มขึ้นได้ค่ะ

     
อกลูกแอปเปิ้ล อกลูกแอปเปิ้ลนี้มีลักษณะเป็นครึ่งวงกลม เนินอกมีความพุ่งชันมาก ควรสวมเสื้อยกทรงแบบ
เต้ากลม เพื่อช่วยเก็บทรงให้เข้ารูปงดงาม

     
อกสับปะรด เป็นหน้าอกที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ฐานอกเล็ก เนื้อของเนินอกขยายออกด้านข้างมาก การเลือกสวม
ใส่บรา ควรเลือกยกทรงที่สามารถเก็บทรงด้านข้างของทรวงอกได้ทั้งหมด หรือยกทรงแบบเต็มทรงนั่นเองค่ะ

     
อกลูกแพร์หรือสตรอเบอรี่ เป็นอกที่มีความหย่อนคล้อยลงเล็กน้อย ลักษณะอกแบบนี้ควรเน้นและเลือกใช้
ยกทรงแบบที่มีเสริมโครงแบบอ่อนๆ เพราะจะช่วยยกกระชับหน้าอกให้ดูอวบอิ่มไม่หย่อนยานค่ะ

     จากนั้นก็เลือกขนาดชุดชั้นในให้พอดีกับรอบอกของเรา สำหรับสาวหน้าอกหน้าใจเล็ก อย่าเพิ่งถอดใจเสียก่อนนะคะ...ให้เลือกพอดีกับตัวเราเหมือนกันค่ะ แต่เอาแบบที่มีดันทรง อาจจะเป็นแบบดันด้านล่างอย่างเดียวหรือ ดันทั้งด้านข้างและล่างก็ได้ค่ะ



     วิธีการใส่ชุดชั้นในนั้นก็ง่ายนิดเดียวค่ะ เพียงแค่คุณสาวๆ ก้มตัวลงในลักษณะรูปตัวยูคว่ำ จากนั้นก็เอาชุดชั้น
ในมาใส่เข้าทางด้านหน้า เพราะการสวมยกทรงในขณะที่ก้มปล่อยทรวงอกลงมา จะเป็นวิธีการที่จะช่วยประคอง
ทรวงอกให้เข้ารูปไว้ได้เป็นอย่างดีที่สุดค่ะ (หลายคนใส่เหมือนสมัยคุณยาย...ที่เอาตะขอไว้ด้านหน้าแล้วใช้วิธี
การหมุนเอา...อย่างนี้ผิดนะคะ เพราะจะทำให้ชุดชั้นในของคุณนั้นหมดอายุการใช้งานก่อนเวลา) จากนั้นก็เอื้อม
มือไปติดตะขอที่ด้านหลัง จากนั้นก็เอามือล้วงเข้าไปใต้หน้าอกของคุณ ค่อยๆ ช้อนหน้าอกขึ้นมาทั้งสองข้าง แล้ว
ยืนตัวตรง จากนั้นก็ช้อนอีกครั้ง โดยคราวนี้ช้อนให้เข้ารูปทรงดูสวยงาม ทั้งด้านล่างและด้านข้างของขอบชุดชั้น
ในนะคะ เท่านี้ คุณก็จะเป็นสาวที่มีหน้าอกหน้าใจสวยเหมือนสาวอกตู้มแล้วล่ะค่ะ...