ภัยเงียบคนกรุงฯ
โรคความดันโลหิตสูง...
เสี่ยงอัมพฤกษ์ อัมพาต
ไลฟ์สไตล์คนกรุงน่าห่วง ทำงานเร่งรีบ เครียด กินฟาสต์ฟูด อ้วน ไม่ออกกำลังกาย เสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน รวมทั้งการมี ภาวะความดันโลหิตมากกว่า 140 /90 มม.ปรอท ถือว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง และเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับหนึ่งของโรคหลอดเลือดสมองหรืออัมพาต...
ไลฟ์สไตล์คนกรุงน่าห่วง ทำงานเร่งรีบ เครียด กินฟาสต์ฟูด อ้วน ไม่ออกกำลังกาย เสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน รวมทั้งการมี ภาวะความดันโลหิตมากกว่า 140 /90 มม.ปรอท ถือว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง และเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับหนึ่งของโรคหลอดเลือดสมองหรืออัมพาตโดย ผู้ที่ไม่ได้รักษาความดันโลหิตสูงจะมีโอกาสเกิดโรคอัมพาตเพิ่มขึ้น 7 เท่า มากกว่าคนปกติ สถิติจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขคาดว่า จะมีผู้มีภาวะความดันโลหิตสูงประมาณ 10 ล้านคน ซึ่ง 70% ของคนกลุ่มนี้ไม่ทราบว่าตนเองมีภาวะดังกล่าว เนื่องจากไม่มีอาการ ทำให้ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
ภาวะ ความดันโลหิตสูงจะค่อยๆ ทำให้หลอดเลือดภายในร่างกายค่อยๆ เสื่อมไป โดยเฉพาะ หลอดเลือดสมอง ผลการวิจัยจากออสเตรเลีย พบว่าผู้สูงอายุมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบตันขนาดเล็ก (Silent Stroke) แม้จะไม่มีอาการของโรคหลอดเลือดสมองอย่างชัดเจน แต่จะมีผลกระทบเกี่ยวกับความทรงจำและกระบวนการคิดซึ่งเป็นสาเหตุของโรคสมอง เสื่อม ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงมีโอกาสที่หลอดเลือดในสมองอาจตีบแตก ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตมีความพิการหรือตายได้
สาเหตุของโรค เกิดจาก "อยู่ดี กินอร่อยเกิน สบายเกิน เครียดเกิน พิษเกิน" การรับประทานอาหารหวาน มัน เค็ม เนื้อสัตว์ มากเกิน การไม่ออกกำลังกาย อ้วน ทำให้ความดันโลหิตสูง
ป้องกัน..ดี กว่ารักษา ผู้หญิงในวัยทองจะมีโอกาสเป็นความดันโลหิตสูงมากกว่าผู้ชาย ควรจะวัดความดันโลหิตเป็นระยะ และหมั่นตรวจสุขภาพประจำปี เป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้รู้ว่ามีความผิดปกติอะไรในร่างกาย และปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อควบคุมระดับความดันโลหิตสูง เช่น ออกกำลังกาย งดกินเค็มเลี่ยงรสจัด กินอาหารไขมันต่ำ ลดการบริโภคแอลกอฮอล์
การ ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ทำได้โดยการค้นหาปัจจัยเสี่ยงและควบคุมรักษาปัจจัยเสี่ยงนั้นอย่างดีหรือ ตรวจสอบความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองด้วยการทำอัลตราซาวด์หลอดเลือดคอ (Carotid Duplex Ultrasound) เพื่อตรวจภาวะการอุดตันของหลอดเลือดบริเวณคอ ซึ่งเป็นหลอดเลือดที่สำคัญที่ไปเลี้ยงสมอง หรือ ตรวจสมองด้วย MRIหรือ CT Scan
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น