กินอย่างไรจึงจะสุขภาพดี
คนมีสุขภาพดีตามหลักอภิธรรม ความบกพร่องทางรูปกาย มีสาเหตุ 4 ประการคือ
1. เกิดจากกรรม บางคนแก้กรรมก็หายป่วยได้
2. เกิดจากจิต เป็นวิธีคิดของคนบางคนทำให้
ตัว เองป่วยได้ เช่นความโกรธ คนที่โกรธบ่อยๆ จะทำให้ตับเสื่อมและเป็นสาเหตุของมะเร็งด้วย ทำไมจึงโกรธ เพราะสารอาดรีนาลีนเยอะ ทำไมจึงมีสารนี้มาก เพราะกินเนื้อสัตว์ สัตว์รู้ตัวว่าจะถูกเขาฆ่า ร่างกายของมันจะหลั่งสารอาดรีนาลีน ออกมาเพื่อกล่อมประสาท ซึ่งสารพิษนี้ยังคงตกค้างอยู่ในเนื้อสัตว์ที่เขาชำแหละแม้จะนำไปต้มหรือทอด สารนี้ก็ยังตกค้างอยู่ ถ้าสารตัวนี้สะสมมากในร่างกายของคนเรา จะทำให้ฝันเหมือนวิ่งหนีเพราะถูกไล่ฆ่า
วิธี คิดของคนสามารถทำให้ป่วยได้ หรือการแสดงอาการต่างๆ โกรธ น้อยใจ ไม่ได้ดั่งใจ งอน จะป่วยด้วยโรคทรวงอก ให้สังเกตคนที่ป่วยเป็นมะเร็งทรวงอก มักจะเป็นคนขี้น้อยใจ ขี้กังวล
3. เกิดจากเหตุ อุตุ ในพระไตรปิฎกแปลว่า พลังงาน พลังงาน การไหลเวียนในร่างกายไม่ดีอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เกี่ยวกับการเกิดอุตุแบ่งเป็น 2 แบบ
- อัฌฌัตอุตุ (พลังงานที่ไหลเวียนในร่างกาย)
- พหิทธอุตุ พลังงานที่มาจากภายนอก แล้วซึมซับเข้ามาในร่างกายเราได้ พลังงานที่ไหลเวียนในร่างกายอยู่ที่ไหน ในร่างกายมีเซลล์ประสาทเชื่อมโยงจากสมอง ในสมองคนที่อนุภาคแม่เหล็ก 7000 ชิ้น จากสมองมีสายคล้ายสายไฟโยงใยไปทั่วร่างกาย เรียกว่าเซลล์ประสาท ข้างในเซลล์มีโพรงตรงกลาง มีประจุไฟฟ้าบวก รอบนอกมีประจุไฟฟ้าลบ ประจุไฟฟ้าลบมีหน้าที่ไล่จับอนุมูลอิสระ ต่อต้านเชื้อโรค ถ้ามีประจุไฟฟ้าเยอะก็ไม่ค่อยป่วย ชื่อเรียกประจุไฟฟ้าลบ มีความแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรม เช่นในญี่ปุ่นเรียกว่า ชิ จีนเรียกว่าซี ซีกง ในอินเดียเรียกว่าปราณ นที หรือ กุณฑลินี ฝรั่งเรียกว่า Vitality force or Universal force ถ้าเราวัดค่าสนามแม่เหล็กในคนปกติ พลังงานเฉลี่ยปรกติ 0.7 เกาท์ ในคนที่กินเนื้อสัตว์จะมีน้อยกว่า และจะเจ็บป่วยบ่อยเพราะค่าอุตุหรือพลังงานปั่นป่วน คนกินมังสวิรัติมักจะสูงกว่า 0.7 ยกเว้นบางกลุ่ม
- สี กลิ่น เสียง รส การเคลื่อนไหวออกกำลังกาย เป็นการกระตุ้นอุตุ
4. เกิดจากการอาหาร ในศาสนาพุทธแบ่งอาหารเป็น 4 กลุ่ม
- กวฬิงกลาหาร ได้จากการกินพวกพืชผักสมุนไพร เน้นที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
- ผัสสาหาร จากการสัมผัส เสียดสี ของสวยงามต่างๆ เช่น อัญมณี หินสีสวยงาม
- มโนสัญเจตนาหาร จากการใช้สมาธิ
- วิ ญญาณาหาร อาหารที่ได้จากจิตวิญญาณ จากความรัก ความผูกพัน จากความสัมพันธ์ระหว่างครูอาจารย์กับศิษย์ หรือคนที่มีเป้าหมาย มีความคิดเหมือนกัน จะสามารถประคองชีวิตให้อยู่ได้
เวลา ตกฟากของคนไม่เหมือนกัน จะเป็นตัวแสดงธาตุเจ้าเรือน หมอสมัยโบราณจึงต้องใช้วิธีคำณวนวันเดือนปีเกิดของเด็ก เพื่อจะได้รู้ว่าระบบไหนภายในร่างกายอ่อนแอ เมื่อเด็กโตเป็นผู้ใหญ่ ธาตุเจ้าเรือนจะเปลี่ยนไปตามวิธีคิดและสิ่งแวดล้อม ไม่สามารถกินอาหารตามธาตุเหมือนตอนเป็นเด็กได้ต้องกินตามธาตุปัจจุบัน
อวัยวะภายในร่างกายมี 12 ระบบ แต่ละระบบจะทำงานหนักเวลา 2 ชั่วโมง ในแต่ละวัน
ช่วง ตีสามถึงตีห้า ปอดจะทำงานหนัก คนที่มี ปัญหาเรื่องปอดจะไม่ตื่นเวลานี้ คนตื่นตีสาม ตีห้า แปลว่าปอดแข็งแรง มีโอกาสเป็นผู้นำคนเพราะลมมาจากปอด พูดมีพลังอำนาจ คนตื่นสาย ปอดจะไม่แข็งแรง
การรักษาโรคปอดหรือหอบหืด
ใช้ ขิงเท่าหัวแม่มือของผู้ป่วย หอมแดงเท่าขิง กระเทียมเท่าขิง ปั่นหรือตำ เติมน้ำ 1 แก้ว กรองเอาแต่น้ำ ใส่น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ บีบมะนาว 3-4 ลูก ไม่เกิน 1 เดือน หอบหืดจะหาย เว้นเสียแต่จะเป็นมานานหลายสิบปี อย่างนี้ต้องใช้เวลา 60 วัน
ช่วง ตีห้าถึงเจ็ดโมงเช้า เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่ ซึ่งมีหน้าที่ขับถ่ายอุจจาระออกไป แต่คนเรามักจะไม่ตื่นในช่วงนี้ ซึ่งเป็นเวลาที่ลำไส้ต้องบีบอุจจาระลง เมื่อไม่ตื่นจึงต้องบีบขึ้น เมื่อไม่ถ่ายตอนเช้า ลำไส้ใหญ่จึงรวนดูอย่างไรว่าลำไส้รวน จะมีอาหารปวดหัวไหล่ กล้ามเนื้อเพดานจะหย่อนแล้วทำให้นอนกรนในที่สุด ในรายที่ลำไส้ใหญ่ผิดปรกติ ควรตื่นนอนก่อนตีห้า แล้วไปขับถ่าย ถ้าไม่ถ่ายให้ดื่มน้ำอุ่น 2 แก้ว ถ้ายังไม่ถ่ายอีก ให้ดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว และกดจุดข้างจมูกช่วย คนที่ขับถ่ายยากต้องกินอาหารเช้า บางคนไม่กินอาหารเช้า ดื่มกาแฟเพียงแก้วเดียวก็อิ่ม ร่างกายจะดูดกากอาหารตกค้งซึ่งกำลังจะเป็นอุจจาระกลับเข้ากระเพาะใหม่ เท่ากับ “กินกาแฟแกล้มอุจจาระ”
ช่วง เจ็ดโมงถึงเก้าโมงเช้า กระเพาะอาหารจะทำงานเต็มที่ช่วงนี้ ถ้าเราไม่ทานอาหารเช้า อุจจาระจะถูกดูดกลับมาที่กระเพาะ กลิ่นตัวจะเหม็น ถ้าเราขับถ่ายออกหมดเกลี้ยงเกลา จะไม่มีกลิ่นตัวเท่าไหร่ อย่างน้อยขอให้มี โยเกิร์ต + นมสด + น้ำผึ้ง + มะนาว ก็จะได้สารอาหารพอเพียงในมื้อเช้าแล้วสูตรนี้ได้มาจากพระไตรปิฎก บำรุงกระเพาะ สมองดี
วิธี การดูแลแผลในกระเพาะอาหารเนื่องจากมีกรดมาก ใช้ขมิ้นชันเท่านิ้วก้อย 3 แง่ง ต้องขูดเปลือกออกก่อนเพราะในเปลือกมีสารสเตียรอยด็สติกนิน (สารนี้สะสมมากอาจเป็นอันตรายได้) นำมาหั่นเป็นแว่นๆ ใส่ถ้วย เติมน้ำร้อน ลง
ไป 3 ช้อนชา แต่ตักดื่มเพียง 2 ช้อน ที่เหลือทิ้งไป เป็นการรักษาแผลตามหลอดอาหารได้ดีมาก
ผู้ เป็นแผลที่หลอดอาหารมักไม่ค่อยรู้ตัว จะมีเสมหะบ่อย กินอาหารแล้วร้อนที่คอ ส่วนใหญ่เมื่อกินยาเข้าไปรักษา ยาจะเลยหลอดอาหารไปลงกระเพาะหมด ลองใช้สูตรนี้คือ กล้วยหอมหรือกล้วยน้ำว้าดิบประมาณ 2ผล ใช้ทั้งเปลือกตัดจุกต้นก้าน หั่นเป็นแว่นๆ นำ ไปต้มในหม้อ ใส่น้ำพอท่วม เติมน้ำตาลกรวดกินเป็นประจำ ส่วนกล้วยหอมสุกกินทุกวันตอนเย็นสองลูก จะทำให้หัวริดสีดวงฝ่อ หรือต้มกล้วยหอมสุกทั้งเนื้อและเปลือก ใส่น้ำตาลกรวด กินทั้งเนื้อและเปลือกก็จะดีมาก
ช่วงเก้าโมงเช้าถึงสิบเอ็ดโมง ม้ามจะทำงานหนัก ให้พูดน้อย กินน้อย ไม่นอนหลับ
ช่วง สิบเอ็ดโมงถึงบ่าย เป็นช่วงของระบบหัวใจ หมายถึงกล้ามเนื้อหัวใจ คนที่มีปัญหาเรื่องนี้ ดูที่อาการปวดไหล่ ไม่ได้แสดงอาการที่หน้าอกอย่างที่เข้าใจกัน กล้วย ส้ม มะเขือ เตย รากบัว บำรุงหัวใจ (เม็ดบัวบำรุงตับไต)
ช่วง บ่ายถึงสามโมงเย็น ช่วงลำไส้เล็ก ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมากในยุคสมัยนี้ เพราะว่าเป็นเหตุของไข้หวัดนก หนู และเป็นตัวฆ่านักมังสวิรัติ ลำไส้เล็กขดไปขดมาในร่างกายผู้ชาย 30 ฟุต ผู้หญิงจะมากกว่าผู้ชายอีก 10 ฟุต การที่ไส้ขดไปขดมา เมื่อกินอาหารเข้าไป ส่วนที่ย่อยไม่หมดจะไปเน่าเสียตกค้างอยู่ตรงส่วนที่หักมุมของลำไส้ เศษผักไม่เท่าไหร่ ที่เป็นปัญหาคือทุกวันนี้น้ำมันผัดผักเพราะเร็วดี ถ้าเป็นน้ำมันธรรมชาติล้วนๆ เช่นน้ำมันมะกอกจะไม่เป็นปัญหาต่อลำไส้เล็ก แต่ น้ำมันที่ซื้อขายทั่วไป มักมีส่วนผสมของ น้ำมันปาล์ม แม้จะบอกว่าเป็นน้ำมันถั่วเหลือง หรือเมล็ดทานตะวันก็ตาม ลองเปรียบเทียบการทำความสะอาดครัวสมัยนี้ ต้องใช้น้ำยาเคมีเพื่อล้างคราบน้ำมันเหนียวเหนอะออกไป
น้ำมัน ปาล์มเมื่อโดนความร้อนจะทำให้เหนียวหนืด เวลาโฆษณามักจะบอกว่าไม่เป็นไข เมื่อนำไปแช่ตู้เย็น แต่ในร่างกายคนเรามีอุณหภูมิ 37 องศาซี เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไปเกาะที่ลำไส้ เวลาดื่มน้ำ น้ำก็ไม่สามารถทะลุผ่าน ทำให้ต้องฉี่บ่อยๆ บางคนดื่มน้ำไปไม่ถึงสิบนาทีก็ต้องลุกไปฉี่ เพราะไตทำงานหนัก เมื่อเป็นอย่างนี้ทุกวันจะทำให้กระดูกเสื่อม เพราะไตเป็นตัวควบคุมกระดูกและสมอง และเลือดไปเลี้ยงสมองก็น้อย เกิดปัญหาสมองเสื่อมตามมาอีก น้ำไม่เข้าร่างกาย แต่สิ่งผ่านเข้าไปได้คือวิตามิน เอ อี ดี แต่ วิตามินซี โปรตีน กรด อะมิโน ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้จึงโละไปให้ไต ไตต้องทำงานหนักเพราะต้องขับโปรตีนออกมา เพราะฉะนั้น ตนที่เป็นโรคไตเวลาตรวจปัสสาวะจะพบโปรตีน เพราะโปรตีนไม่สามารถซึมเข้าร่างกายได้ ต้องมีสี่ตัวหาม สามตัวแห่ คือ วิตามินซี บี1 บี3 บี6 และบี 11 เอาไปเป็นชุดของมัน จะขาดตัวหนึ่งตัวใดไม่ได้ ต้องมาพร้อมๆกัน ที่ไตทำงานหนักก็เพราะเหตุนี้
เมื่อ เป็นปัญหาที่ไต น้ำไม่อาจผ่านเข้าไปได้ สิ่งที่ตามมาคือน้ำดีข้น ถุงน้ำดีจะเก็บน้ำดีจากตับแล้วมาย่อยไขมัน ถุงน้ำดีจะแห้งไปทุกที เพราะน้ำไม่เข้าตัว เราจะตื่นนอนหรือนอนไม่หลับในช่วงห้าทุ่มถึงตีสาม ไปหลับในช่วงเช้ามืด ซึ่งเป็นเวลาที่ควรตื่นนอนแล้ว เพราะว่าช่วงนี้มันง่วงก็ไปหลับเช้ามืดอีกที เพราะฉะนั้นช่วงนี้ถุงน้ำจะข้น ซึ่งเป็นต้นเหตุของไมเกรน แพทย์แผนปัจจุบันต้องรอให้ปวดหัวเสียก่อน แต่แพทย์แผนโบราณจะตัดสินว่าเป็นไมเกรนได้ ตั้งแต่เริ่มอาการคอแห้ง ร้อนใน ปวดตามซี่โครง ปวดด้านข้าง เสียวฟัน ปลายประสาทฟันดูเหมือนจะอักเสบตลอดเวลา ไปหาหมอ หมอจะถอนให้ พอปวดกระบอกตา ปวดหู หมอจะบอกว่าน้ำในหูไม่เท่ากัน แต่ต้นเหตุจริงๆ มาจากถุงน้ำดีข้น ซึ่งเป็นเรื่องของเหตุตามๆ กันมาทำให้ปวดหัวข้างเดียวหรือสองข้าง เลือดเลี้ยงสมองส่วนหน้าไม่พอ จะมีปัญหาสายตาตามมา ตาจะเป็นต้อง่าย จมูกจะเป็นไซนัสง่าย เป็นภูมิแพ้ง่าย นี้คือผลพวงมาจากลำไส้เล็กไม่สะอาดทั้งสิ้น
วิธี detox ลำไส้เล็กตามธรรมชาติ เอาสูตรมาจากพระไตรปิฎก คือสูตร โยเกิร์ต + นม + น้ำผึ้ง + น้ำมะนาว กินเข้าไปจะไปล้างลำไส้ได้ แลคโตบาซิลัสในโยเกิร์ตจะไปช่วยไขมันที่อยู่ในลำไส้ ไปย่อยขยะในลำไส้ด้วย เปลี่ยนเป็นวิตามินบี 12 ให้เรา สูตรนี้กินตอนเช้าลดความอ้วน กินตอนเย็นเพิ่มความอ้วน ฝึกดื่มน้ำตามมากๆ เป็นวิธีแก้
ถ้า มีผลต่อเนื่องที่เกิดจากไขมันเกาะในลำไส้เล็ก เช่น เป็นโรคไตเกิดขึ้น การที่ผมเปลี่ยนสีเป็นสัญลักษณ์ของอาการไตเริ่มเสื่อม ไตสองข้างเสื่อมจะมีอาการไม่เหมือนกัน ถ้าไตซ้ายเสื่อมท่านจะเป็นคนขี้ร้อน ไม่ใส่ใจตนเอง ไม่ค่อยดูแลตัวเอง เป็นอะไรก็ปล่อยปละละเลย ปล่อยตัวแต่ไม่ปล่อยวาง ไม่กตัญญูต่อแผ่นดินที่ให้ร่างกายนี้มา ร่างกายเราเป็นแผ่นดินของจิตวิญญาณ ถ้าไตขวาเสื่อมจะขี้หนาว ความจำลดลง ไม่ต้องรอให้หมดวินิจฉัยว่าเป็นโรคไต ถ้าเริ่มมีสัญญาณก็จัดการตัวเองเลย เห็นหูหนูดำเป็นตัวดูแลไตที่ดี บางสำนักอาจจะตีความเห็ดชนิดนี้ไว้ไม่ดีว่า อาจเป็นพิษหรืออะไร ที่จริงเห็ดเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีกว่าถั่วเหลือง เต้าหู้ นักมังสวิรัติบางคนถูกครอบงำด้วยสารพิษในลูกชิ้นเทียม อาหารจากธรรมชาติดีที่สุด เห็ดหูหนูดำบำรุงไต เห็ดหูหนูขาวบำรุงปอด ถ้าเอาเห็ดสามอย่างมาปรุงอาหารรวมกัน จะเกิดความมหัศจรรย์ขึ้น สามารถล้างพิษในตับได้ ผมเป็นนักธรรมชาติบำบัดมาหลายปี มีประสบการณ์ในการรักษาคนไข้โรคมะเร็ง มีประสบการณ์ในการกินเห็ดสามชนิดทำให้หายดีขึ้น
เห็ด สามชนิด คือเห็ดอะไรก็ได้ที่กินได้ จะทำแกงส้มกินก็ได้ ทั้งสามตัวนี้สามารถช่วยรักษาตับ ซีสต์ เนื้องอก มะเร็ง มีการค้นพบว่า คนเป็นเนื้องอกใหญ่ในมดลูกช่องท้อง หลังจากกินเห็นสามอย่างเป็นประจำ พวกซีสต์ เนื้องอกจะลดลง มีกลุ่มที่ ร.พ.นวนครป่วยเป็นซีสต์ในมดลูก เขาเอาเห็ดสามอย่างมาทำแกงเลียง แกงส้ม ต้มยำ หรือของหวานได้ทั้งนั้น หรือจะทำน้ำดื่มใส่มะตูมใบเตย เครื่องดื่มนี้ถ้าทานเป็นประจำจะล้างสารพิษในร่างกายออกได้ดี อาจจะต้มใส่กากับ ห่วยซัว ใส่หม้อต้มกับสาหร่ายทะเล ไม่ต้องปรุงอะไรอร่อยพอดี เป็นซุปทานประจำก็ได้
เรื่อง ไต ตัวที่บำรุงไตดีที่สุดคือกระชาย ไม่ถึงขนาดต้องใช้กระชายดำ เพราะราคาแพง เอากระชายเหลืองธรรมดา 1 กก. ใส่น้ำเยอะๆ ปั่นผสมกับโหระพา รินเอาแต่น้ำใส ทำมากๆ แล้วเก็บใส่ตู้เย็น ไม่ต้องต้มเพราะมันฆ่าเชื้อด้วยตัวเอง ผสมน้ำผึ้ง น้ำมะนาว ดื่มบำรุงสมอง บำรุงกระดูก เลือดเลี้ยงสมองไม่ดี ความจำเสื่อม นอนไม่ค่อยหลับ จะช่วยได้ แล้วผมจะกลับมาดกดำอีก (ผมอายุ 50 ปีสมัยก่อนหัวล้าน ผมร่วง หงอกด้วย พอได้น้ำกระชายก็กลับมาดำใหม่ ไม่ต้องย้อมเลย ) ไม่ควรย้อมหรือโกรกผมเพราะสารเคมีพวกนี้มีพิษต่อตับ ให้กินแบบนี้ผมจะกลับดำตั้งแต่โคนขึ้นมาเลย น้ำกระชายที่กรองไว้อยู่ได้เป็นเดือน ทำเป็นเครื่องดื่มประจำจะดีมาก
โค เรสเตอรอล แพทย์ตะวันตกไม่ให้ความสำคัญกับเยื่อหุ้มหัวใจ มีผลต่อการทำให้โคเรสเตอรอลสูง ให้ใช้กระเจี๊ยบแดงต้มกับพุทราไทยหรือจีนก็ได้ เติมน้ำตาลกรวดเล็กน้อย เอาไว้ล้างไขมันในเลือด ในรายที่เส้นโลหิตในสมองตีบ ก็สามารถขจัดออกได้ เร็วๆ นี้มีคนป่วยด้วยเส้นโลหิตในสมองตีบ ก็แนะนำให้ต้มกระเจี๊ยบกับพุทราจีนกิน เขาก็หายได้ เป็นเรื่องง่ายๆ แต่ช่วยได้เยอะ
ใน รายที่ร่างกายไม่ค่อยสร้างเม็ดเลือด มีเม็ดเลือดน้อย หรือเป็นลมหน้ามืดบ่อย การใช้สัปปะรดปั่นกับใบโหระพาจะช่วยเพิ่มเม็ดเลือดได้ดี เด็กที่เลือดน้อย ลองทำให้กิน ในรายที่ทานมังสวิรัติ แล้วคิดว่าขาดโปรตีน อย่ากังวล เพียงปั่นสัปปะรดกับใบโหระพาดื่ม ก็สามารถเพิ่มเม็ดเลือดเป็นการสร้างโปรตีนให้แก่ร่างกายด้วยวิธีง่ายๆ แม้แต่พืชผักในธรรมชาติมีแหล่งโปรตีน และกรดอะมิโนอยู่ในตัว ของเพียงให้รู้จักวิธีนำมาใช้
********************
สาระน่ารู้
สับปะรดทุกชนิด ใช้ได้ทุกชนิด
ถ้า ช่วงเพลแล้วรู้สึกง่วงเหมือนไม่สบาย คือหัวใจอ่อนแอ โดยหลักควรจะงีบสักสิบห้านาที แล้วดื่มน้ำสัปปะรดปั่นกับโหระพา ไปบำรุงหัวใจอาการจะดีขึ้น
ท้อง ผูกต้องใช้ยาถ่ายตลอดมา ขอให้หยุดยา ตื่นแต่เช้าก่อนตีห้า ลองดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาวลงไป พยายามตัดใจไม่ใช้ยาถ่ายเพราะทำให้ปลายประสาทเสื่อม ควรดื่มน้ำตามเยอะๆ กดจุดช่วย สู้กับมันให้ได้ทำจนเกิดความเคยชิน พยายามทานโยเกิร์ต+ นมสด + น้ำผึ้ง + มะนาว พวกนี้จะไปล้างลำไส้ใหญ่ให้สะอาด แล้วปลายประสาทจะดีขึ้น
ตัว ปรับสมดุลในรายประจำเดือนไม่ปรกติ เกิดจากฮอร์โมนผิดปรกติ ตัวควบคุมฮอร์โมนให้อยู่ในสภาวะปรกติที่ดีที่สุดคือ น้ำกระชาย ถ้าฮอร์โมนมากไปหรือน้อยไป น้ำกระชายสามารถปรับให้สมดุลได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ชายมีฮอร์โมนเพศชายมากไป ผมจะร่วง ต้องปรับฮอร์โมนให้ลดลง ถ้าฮอร์โมนสมดุลจะทำให้ไม่เจ็บป่วยง่าย ปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ระบบเพศ ให้ใช้น้ำกระชายซึ่งไม่มีสารสเตียรอยด์สติกนิน ที่มีอยู่ในโสมซึ่งต้องสกัดสารเหล่านี้ออกก่อน กระชายมีสรรพคุณทางบวกด้านเหมือนโสม แต่ว่าด้านเสียของโสมไม่มีในกระชาย
ในพระไตรปิฎกพูดเรื่องมะม่วงสุกคั้นรักษาอาการ menopause ในฤดูที่ไม่มีมะม่วง ให้ใช้น้ำกระชายแทน
กรณี เลือดใสเพราะขาดโปรตีนของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ผู้ป่วยมะเร็งไม่สามารถกินโปรตีนได้ ต้นเหตุของมะเร็งคือโปรตีนจากสัตว์ทุกชนิดไปทำให้เซลมะเร็งมัน firm ให้งดโปรตีนจากสัตว์โดยเด็ดขาด แต่โปรตีนจากเห็ดไม่เป็นพิษกับมะเร็ง แต่จะเป็นตัวไปขจัดมะเร็ง เพราะฉะนั้น การใช้เห็ดสามชนิดมารวมกันจึงกลายเป็นยาขึ้นมาได้ ลองเปรียบเทียบกันดินปืนที่ใส่ประทัด ถ้าแยกส่วนออกมาแต่ละตัวแทบจุดไฟไม่ติด แต่พอนำมารวมกันกลายเป็นระเบิดได้ เห็ดก็เหมือนกัน เวลาแยกกันอยู่มันก็แค่อาหารธรรมดาไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ พอรวมกันสามอย่างมีค่ากรดอะมิโนที่สามารถไปลดเซลล์มะเร็ง ซีสต์ เนื้องอกได้ เพราะฉะนั้นโปรตีนจากเห็ดสามอย่างรวมกันสามารถช่วยลดการเติบโตของเซลล์ มะเร็งได้ เห็ดสามอย่างจะใช้เห็ดอะไรก็ได้ แต่แนะนำให้ใช้เห็ดหอม เห็ดหูหนูขาวและหูหนูดำ เพราะเป็นของแห้งเก็บได้นาน
โรค ปวดในกระดูก ตามความเป็นจริงแล้ว กระดูกจะปวดได้ก็ต่อเมื่อมันแตก หัก หรือร้าวเท่านั้น อาการปวดที่เกิดอาจเป็นเส้นเอ็นซึ่งจะต้องแยกให้ออก ถ้าปวดบริเวณสันหน้าแข้ง ไม่ใช่กระดูก เกิดจากกระเพาะผิดปรกติ ต้องตรวจดูว่ากินอาหารเช้าระหว่าง 7 โมงถึง 9 โมงเช้า หรือไม่ วิตกกังวลมั้ย ในกรณีผู้ถาม เป็นเพราะดื่มกาแฟแต่เช้า และทานอาหารตอนสายมาก ประมาณ 9 โมง ด้วยเหตุนี้จึงปวดขา ควรต้องปรับเวลาอาหารเช้าให้เร็วขึ้น และเพื่อรักษากระเพาะให้ใช้กล้วยดิบดัดหัวท้ายต้มกับน้ำตาลกรวด หรือขมิ้นชัน (ที่กล่าวไว้แล้วตอนต้น)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น